สถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร ปี 2568 “กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านนาเวียง”อ.คำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร ยึดหลักการ “ร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมดำเนินงาน ร่วมแก้ไขปัญหา และร่วมรับผลประโยชน์” อย่างต่อเนื่อง

บ้าน

“กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านนาเวียง” จัดตั้งเมื่อ ๓๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๐

สมาชิกแรกตั้ง ๕๔ ราย

สมาชิกปัจจุบัน ๑๑๒ ราย (อายุเฉลี่ย ๕๙ ปี)

ประธานกลุ่ม นางฉวี มงคลนำ

ที่ทำการกลุ่ม หมู่ที่ ๑๑ ตำบลกู่จาน อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร

บ้าน 4

ผลงานดีเด่น ความคิดริเริ่ม

บ้านนาเวียง เป็นชุมชนเกษตรกรรมที่มีอาชีพหลักคือการทำนา ด้วยภูมิประเทศที่เป็นที่ลุ่มและมีลำเซบายไหลผ่าน ทำให้ชุมชนต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากทุกปี ส่งผลกระทบต่อรายได้และความเป็นอยู่ของเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ไขปัญหาและสร้างโอกาสให้กับชุมชน กลุ่มสตรีในพื้นที่จึงรวมตัวกันจัดตั้ง “กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านนาเวียง” ขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๓๐ โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างรายได้เสริมให้กับครัวเรือน เริ่มจากการระดมหุ้นเพื่อปลูกข้าวโพดฝักอ่อน

แต่จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๓๙ เมื่อกลุ่มได้มีโอกาสศึกษาดูงานที่จังหวัดอุดรธานี ทำให้เกิดแนวคิดใหม่ในการปรับเปลี่ยนกิจกรรมเป็นการผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์จากถั่วลิสง สามารถ “พลิกวิกฤตเป็นโอกาส” จากปัญหานํ้าท่วมซํ้าซากในพื้นที่ ด้วยการใช้ประโยชน์จากดินทามโดยการปลูกถั่วลิสงในฤดูแล้งและต่อยอดไปสู่การแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย

บ้าน 3

นอกจากนี้กลุ่มได้นำภูมิปัญญาและเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เช่น การเลือกใช้พันธุ์ถั่วลิสงไทนาน ๙ ซึ่งให้ผลผลิตคุณภาพสูงและเหมาะกับการแปรรูป การปลูกถั่วลิสงแบบยกร่อง เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้น้ำและรักษาความชื้นของดินและการใช้เครื่องจักรในการแปรรูป เพื่อลดเวลาและต้นทุนการผลิต โดยยังคงคุณภาพและรสชาติของผลิตภัณฑ์ได้อย่างดี เป็นต้น

บ้าน 1

ปัจจุบันกลุ่มดําเนินกิจกรรมผลิตและแปรรูปถั่วลิสงแบบครบวงจร โดยเน้นการมีส่วนร่วมของสมาชิกในชุมชน พร้อมพัฒนาต่อยอดกิจกรรมกลุ่มมากกว่า ๗ กิจกรรม มีโรงเรือนแปรรูป ๒ แห่ง และมีผลิตภัณฑ์มากถึง ๑๐ ชนิด ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน เช่น อย. มผช. และ OTOP ระดับ ๕ ดาว เป็นต้น ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับถั่วลิสงฝักสดได้ถึง ๖ เท่า นำไปสู่การสร้างงานและสร้างอาชีพที่มั่นคงให้กับคนในชุมชน ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่นและพัฒนาคุณภาพชีวิตของสมาชิกอย่างยั่งยืน ภายใต้ตราสินค้า“ถั่วดินเวียงทอง” ที่กลายเป็นเอกลักษณ์ของอำเภอ คำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร

บ้าน 5

ความสามารถในการบริหารและการจัดการสถาบัน

กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านนาเวียงมีโครงสร้างการบริหารจัดการที่ชัดเจนและเข้มแข็ง โดยใช้รูปแบบการบริหารแบบกระจายอํานาจ ผ่านคณะกรรมการที่แบ่งหน้าที่รับผิดชอบอย่างเป็นระบบ ได้แก่ ฝ่ายบริหาร ฝ่ายผลิต ฝ่ายตรวจสอบ ฝ่ายการตลาด กรรมการกิจกรรมกลุ่มย่อย และที่ปรึกษากลุ่ม สามารถกำกับดูแลการดำเนินงานของสมาชิกทั้ง ๑๑๒ ราย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และหลักประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมของสมาชิกในการบริหารและตัดสินใจร่วมกันทุกขั้นตอนเพื่อให้การดำเนินงานของกลุ่มมีความสอดคล้องกับกิจกรรมของชุมชนตลอดห่วงโซ่การผลิต ภายใต้วิสัยทัศน์“มุ่งเน้นช่วยเหลือคนในชุมชน มากกว่าผลกําไร”

บ้าน 8

กลุ่มให้ความสำคัญกับความโปร่งใสและตรวจสอบได้โดยมีระบบเอกสารที่เป็นปัจจุบัน และมีการชี้แจงข้อมูลทางการเงินและบัญชี ให้แก่สมาชิกและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างสม่ำเสมอ เพื่อนำไปวางแผนกำหนด แนวทาง และปรับปรุงการดำเนินกิจกรรม

นอกจากนี้ กลุ่มยังมีการคํานวณต้นทุนการผลิตก่อนกําหนดราคาและมีป้ายแสดงผลการดําเนินงานประจําปี เพื่อให้สมาชิกทุกคนรับทราบสถานะทางการเงินและผลประกอบการของกลุ่ม รวมทั้งบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ หน่วยงานท้องถิ่นและสถาบันการศึกษา เพื่อส่งเสริมองค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการพัฒนากระบวนการผลิตให้ได้มาตรฐาน การสร้างเครือข่ายและขยายช่องทางการตลาด เพื่อให้กลุ่มมีความเข้มแข็งและสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยกลุ่มมีการจัดสรรกำไรสุทธิประจำปี ดังนี้

บ้าน 9
  • คืนหุ้น ร้อยละ ๑๐
  • สมทบกองทุนกลุ่ม ร้อยละ ๑๐
  • เฉลี่ยคืนสมาชิกผู้มาปฏิบัติงาน ร้อยละ ๖๐
  • ค่าตอบแทนคณะกรรมการ ร้อยละ ๖
  • สวัสดิการสมาชิก ร้อยละ ๓
  • สาธารณประโยชน์ ร้อยละ ๑๐
  • เงินสำรองฉุกเฉินอื่นๆ ร้อยละ ๑

ปัจจุบัน กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านนาเวียง เป็นศูนย์เรียนรู้ด้านการปลูกและแปรรูปถั่วลิสงที่ได้รับการยอมรับจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และผู้ที่สนใจจากทั้งในและนอกจังหวัด รวมทั้งทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการและแปรรูปผลิตภัณฑ์จากถั่วลิสง ให้กับองค์กรเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดยโสธร ช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพ และยกระดับเศรษฐกิจของชุมชนโดยรอบ อีกทั้งกลุ่มยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความมั่นคงด้านอาหารในครัวเรือน การบริหารจัดการบ้านเรือนอย่างมีประสิทธิภาพ การออมทรัพย์ และการจัดทําบัญชีครัวเรือน ซึ่งช่วยให้สมาชิกกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรมีวินัยทางการเงิน อยู่ดีกินดี และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

บ้าน 10

บทบาทและการมีส่วนร่วมของสมาชิกต่อสถาบัน

สมาชิกทุกคนตระหนักและเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของตนเองอย่างชัดเจน และมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการและตัดสินใจร่วมกับคณะกรรมการกลุ่มอย่างต่อเนื่อง ดังนี้

บ้าน 12

-สมาชิกกลุ่มรับทราบเป้าหมายและทิศทางการดำเนินงานของกลุ่มอย่างทั่วถึง และมีส่วนร่วมในการประชุมร่วมกับคณะกรรมการกลุ่มในฝ่ายต่าง ๆ เพื่อร่วมกันวางแผน กำาหนดแนวทาง และตัดสินใจในการพัฒนากิจกรรมของกลุ่มเป็นประจำทุก ๓ เดือน

-สมาชิกกลุ่มมีส่วนร่วมในการวิเคราะห์ปัญหาร่วมวางแผน แสดงความคิดเห็น และตัดสินใจในทุกขั้นตอนของการดำเนินกิจกรรมของกลุ่ม เช่น กิจกรรมรับซื้อถั่วลิสงฝักแห้งประจำปี ซึ่งสมาชิกกลุ่มมีส่วนร่วมในการวางแผนการผลิต การกำหนดราคากลางในการรับซื้อและการเปิดรับซื้อจากสมาชิกกลุ่มรวมถึงบุคคลในชุมชน

บ้าน 13

-สมาชิกกลุ่มและคณะกรรมการมีความรู้ความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของตนเองอย่างชัดเจน มีการแบ่งหน้าที่และมอบหมายงานให้แก่สมาชิกตามความสมัครใจโดยสามารถบริหารจัดการกลุ่มและปฏิบัติหน้าที่แทนกันได้อย่างเหมาะสม

-สมาชิกกลุ่มมีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมของกลุ่มในทุกขั้นตอน โดยยึดหลักการ “ร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมดำเนินงาน ร่วมแก้ไขปัญหา และร่วมรับผลประโยชน์” อย่างต่อเนื่อง

-กลุ่มมีระบบการบริหารจัดการที่โปร่งใส สมาชิกทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลรายรับ – รายจ่ายของกลุ่มได้อย่างเปิดเผย

-สมาชิกกลุ่มได้รับการพัฒนาศักยภาพตามความถนัดและความต้องการของแต่ละบุคคลอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม โดยใช้งบประมาณจากทุนของกลุ่มผ่านเวทีการประชุมเพื่อสำรวจความต้องการและกำหนดหัวข้อในการพัฒนาร่วมกัน

บ้าน 14

-กลุ่มร่วมกันคิดค้นและพัฒนาสูตรการแปรรูปถั่วลิสงอย่างเป็นระบบ เพื่อควบคุมคุณภาพและรสชาติให้มีมาตรฐานเดียวกัน พร้อมถ่ายทอดความรู้และทักษะให้แก่สมาชิกผ่านกิจกรรมอบรม สาธิต และฝึกปฏิบัติส่งผลให้สมาชิกสามารถดำเนินกิจกรรมการผลิตได้ทุกกระบวนการและทุกผลิตภัณฑ์อย่างมีประสิทธิภาพ

ความมั่นคงและฐานะทางเศรษฐกิจของสถาบัน

กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านนาเวียง มีการขยายตัวของจำนวนสมาชิกอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากปี พ.ศ. ๒๕๓๐ มีสมาชิกจำนวน ๕๔ ราย ปัจจุบันมีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นเป็น ๑๑๒ ราย คิดเป็นร้อยละ ๔๙ ของจำนวนครัวเรือนทั้งหมดในชุมชน ๒๓๓ ครัวเรือน โดยมีสมาชิกอาวุโสคอยให้คำแนะนำ สนับสนุน และส่งเสริมให้สมาชิกรุ่นใหม่มีบทบาทในการสืบสานภูมิปัญญาด้านการปลูกและแปรรูปถั่วลิสงให้มีคุณภาพและสอดคล้องกับความต้องการของตลาดในปัจจุบัน และเปิดรับเยาวชนลูกหลานของสมาชิกและคนในชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ของกลุ่ม ตั้งแต่กระบวนการผลิตจนถึงการจำหน่าย เพื่อสร้างทายาท ปลูกฝังทักษะอาชีพสร้างโอกาสในการเรียนรู้ ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ห่างไกลจากปัญหายาเสพติด และมีรายได้ของตนเอง

กลุ่มมีการพัฒนาต่อยอดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องทั้งหมด ๗ กิจกรรม บนพื้นฐานของการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสอดคล้องกับบริบทของชุมชน มีการเชื่อมโยงกิจกรรมร่วมกับกลุ่มองค์กรเครือข่ายในชุมชน จำานวน ๙ กิจกรรม และต่อยอดจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชนเพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิตขยายช่องทางการตลาด และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุนระดับสูงขึ้น นอกจากนี้กลุ่มยังคงมีระบบการบริหารจัดการทุนที่มีประสิทธิภาพ มีความมั่นคงทางการเงิน และสามารถพึ่งพาตนเองได้โดยใช้เงินทุนหมุนเวียนภายในกลุ่มร่วมกับผลกำไรที่เกิดจากการดำเนินงานจนได้รับความเชื่อมั่นจากสถาบันการเงินรวมถึงการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเจริญเติบโตและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของกลุ่มและสมาชิก ดังนี้

๑. งบกำาไรขาดทุน (หน่วย : บาท)

ปี ๒๕๖๔

กำาไรสุทธิ ๓๖๖,๒๒๖ บาท

รวมรายรับ ๑,๙๘๐,๗๙๐ บาท

รวมรายจ่าย ๑,๖๔๕,๕๖๔ บาท

กำาไรสุทธิ ๓๓๕,๒๒๖ บาท

ปี ๒๕๖๕

รวมรายรับ ๑,๙๐๑,๔๙๗ บาท

รวมรายจ่าย ๑,๕๓๕,๒๗๑ บาท

กำไรสุทธิ ๓๖๖,๒๒๖ บาท

ปี ๒๕๖๖

-รวมรายรับ ๒,๒๑๖,๙๐๑ บาท

-รวมรายจ่าย ๑,๗๔๗,๗๗๔ บาท

-กำไรสุทธิ ๔๖๙,๑๒๗ บาท

๒. งบแสดงฐานะการเงินของกลุ่ม (หน่วย : บาท)

บ้าน 11

๓. ความมั่นคงทางการเงินของสมาชิกกลุ่ม

-รายได้เฉลี่ยของสมาชิก ๑๒,๙๖๕ บาท/คน/ปี

-มีรายจ่ายลดลงเฉลี่ย ๑๕,๒๐๐ บาท/ครัวเรือน/ปี

-มีเงินออมเฉลี่ย ๗,๕๔๐ บาท/ครัวเรือน/ปี

การทำกิจกรรมด้านสาธารณประโยชน์และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านนาเวียงมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของชุมชนควบคู่กับการดำเนินกิจกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และให้ความสำคัญกับการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และปลูกจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมให้กับคนในชุมชน ดังนี้

ด้านสาธารณประโยชน์

๑. กลุ่มมีการจัดสรรผลประโยชน์ให้กับสาธารณประโยชน์ จำนวน ๑๐%

๒. กลุ่มมีการใช้ประโยชน์จากสถานที่ตั้งกลุ่ม ได้แก่ เป็นสถานที่ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของกลุ่มเป็นหล่งเรียนรู้สำหรับฝึกอบรมและศึกษาดูงานด้านการปลูกและแปรรูปถั่วลิสงแบบครบวงจรและเป็นศูนย์กลางในการประสานงานและให้ความ
ช่วยเหลือแก่ประชาชนในชุมชน

๓. คณะกรรมการและสมาชิกกลุ่มกว่า ๒๓ รายทำหน้าที่เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ให้กับกลุ่มอาชีพนักเรียน นักศึกษา และผู้สนใจทั้งในและนอกพื้นที่ รวมกว่า ๑๕ หลักสูตร

๔. สมาชิกกลุ่มได้รับการส่งเสริมให้มีบทบาทสำคัญในชุมชน เช่น ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ประธานกองทุนหมู่บ้าน อาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน(อกม.) อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) และ อปพร.เป็นต้น

๕. กลุ่มเป็นแกนนำในการขับเคลื่อนกิจกรรมพัฒนาชุมชน ด้านการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ การประสานความร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ ในพื้นที่และการสนับสนุนทรัพยากรอย่างต่อเนื่อง อาทิ การบริจาคเงิน สิ่งของ และจัดเลี้ยงอาหารแก่ชุมชน วัด
โรงเรียน โรงพยาบาล และหน่วยงานราชการ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนในชุมชน

ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

๑. กระบวนการผลิตถั่วลิสงใช้ระบบการให้น้ำพลังงานแสงอาทิตย์ และไม่ใช้สารเคมี

๒. มีการจัดการของเสีย ลดการเกิดขยะจากกระบวนการผลิต (Zero Waste) เช่น ต้นและใบถั่วลิสง นำไปใช้ทำปุ๋ยหมักและอาหารสัตว์ เมล็ดถั่วลิงนำไปแปรรูป เปลือกถั่วลิสงนำไปเผาด้วยความร้อนสูงเป็นถ่านกัมมันต์เปลือกถั่วลิสงชาโคล เป็นต้น

๓. กลุ่มส่งเสริมการจัดการขยะในครัวเรือน โดยรณรงค์การคัดแยกขยะและส่งเสริมการทำถังขยะเปียกแบบฝังดิน เพื่อลดมลพิษทางอากาศ ลดการใช้ปุ๋ยเคมีและสร้างสิ่งแวดล้อมที่น่าอยู่

๔. กลุ่มร่วมกันดูแลไม่ให้มีการตัดไม้ทำลายป่าและรณรงค์ไม่เผาตอซังข้าว เพื่อป้องกันการชะล้างหน้าดิน ลดปัญหาหมอกควัน และรักษาสมดุลของระบบนิเวศในชุมชน