วันนี้ (9 มิ.ย. 68) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานร่วมในพิธีเปิดงาน “Kick Off ตลาดกลางวัตถุดิบสมุนไพรคุณภาพ” ภายใต้แนวคิด “สมุนไพรไทย ก้าวไกลด้วยคุณภาพ” ณ ตลาดไท ตลาดผักและสมุนไพร 2 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยมี คณะผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายแพทย์สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก นางสาววรามาศ ภัทรประสิทธิ์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทย แอ็กโกร เอ็กซเชนจ์ จำกัด (ตลาดไท) เข้าร่วม
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงนโยบายในเรื่องการส่งเสริมสมุนไพรว่า กระทรวงสาธารณสุขมุ่งมั่นผลักดันการใช้สมุนไพรควบคู่กับการแพทย์แผนปัจจุบันอย่างจริงจัง เพื่อเพิ่มทางเลือกในการดูแลสุขภาพของประชาชน และสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบสาธารณสุขของประเทศ จึงได้เล็งเห็นความสำคัญของการจัดตั้ง “ตลาดกลางวัตถุดิบสมุนไพร” ที่จะไม่เพียงเป็นแหล่งซื้อขายวัตถุดิบสมุนไพรที่มีคุณภาพ แต่เป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนห่วงโซ่อุปทานสมุนไพรอย่างครบวงจร โดยตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และบริษัท ไทย แอ็กโกร เอ็กซ์เชนจ์ จำกัด (ตลาดไท) ได้ร่วมกันดำเนินโครงการตลาดสมุนไพรสด และเครื่องเทศสดปลอดภัย บนพื้นที่กว่า 4,000 ตารางเมตร เพื่อช่วยเกษตรกรให้มีพื้นที่จำหน่ายสมุนไพร และช่วยกระจายสินค้าสมุนไพรสดที่มีมาตรฐานปลอดภัย ทำให้ในปัจจุบันมีปริมาณสินค้าสมุนไพรสด และเครื่่องเทศสดเข้าสู่ตลาดไทมากถึง 210,366 ตัน คิดมูลค่ามากกว่า 2,300 ล้านบาทต่อปี และคาดว่าตลาดกลางสมุนไพรไทย ที่เกิดขึ้นนี้จะผลักดันให้มีมูลค่าสมุนไพรในตลาดกลางมากกว่า 6,000 ล้านบาทต่อปี
รัฐมนตรีช่วยเกษตรฯ กล่าวถึงนโยบายของกระทรวงเกษตรฯในการยกระดับคุณภาพวัตถุดิบสมุนไพรไทยให้ได้มาตรฐาน เพื่อเข้าสู่ตลาดกลางวัตถุดิบสมุนไพร ว่า สมุนไพรไทยเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีศักยภาพ ทั้งในด้านการแพทย์ สุขภาพ และเศรษฐกิจ โดยอุตสาหกรรมสมุนไพรไทยมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจัยสำคัญคือวัตถุดิบสมุนไพรที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และปลอดภัย โดยผู้ผลิตที่สำคัญคือกลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชม ดังนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงทำหน้าที่เป็นหน่วยงานดูแลต้นน้ำด้านการผลิตของเกษตรกร การจัดการวัตถุดิบสมุนไพรให้มีคุณภาพ พันธุ์พืช กระบวนการปลูกและดูแลพืชสมุนไพร เทคโนโลยีการผลิต ต้นทุนการผลิตมาตรฐานการผลิตงานวิจัยและนวัตกรรมอื่น ๆ รวมถึงระบบฐานข้อมูลสมุนไพรที่จะต้องผลักดันพัฒนาให้เกิดความยั่งยืนเพื่อรองรับการพัฒนาสมุนไพรครบวงจร ภายใต้แผนแม่บทแห่งชาติว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพรไทย ฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2560-2565) และแผนปฏิบัติการด้านสมุนไพรแห่งชาติ ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2566-2570)
สำหรับแนวทางการขับเคลื่อนด้านวัตถุดิบสมุนไพรนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความมุ่งมั่นในการดำเนินงานขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลด้านการเกษตรด้วยหลักการ “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” โดยได้มีการขับเคลื่อนด้านวัตถุดิบสมุนไพรตามแผนปฏิบัติการฯ ฉบับที่ 2 ยุทธศาสตร์ที่ 1 ส่งเสริมการผลิตและแปรรูปวัตถุดิบสมุนไพรให้มีคุณภาพและมาตรฐาน โดยแผนการส่งเสริมการเพิ่มผลิตภาพสมุนไพรที่มีคุณภาพสู่การผลิตสมุนไพรที่มีมูลค่าสูง (High value added) โดยนำองค์ความรู้การวิจัยพัฒนา นวัตกรรม และเทคโนโลยีมาใช้ในการทำเกษตรแบบแม่นยำ (Precision Farming) เพื่อลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต รวมถึงพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหาร และต่อยอดการพัฒนาไปสู่เศรษฐกิจ BCG มีการส่งเสริมกลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน ให้ได้รับการส่งเสริมการผลิตและการแปรรูปหลังการเก็บเกี่ยว ณ สถานที่ปลูกและการผลิตผลิตภัณฑ์และสารสกัดอย่างง่ายในระดับชุมชน โดยมุ่งเน้นเรื่องการผลิตและแปรรูปให้ได้คุณภาพ (Quality) ความต่อเนื่อง โดยคำนึงถึงปริมาณและคุณภาพมาตรฐานตามความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งแต่ต้นน้ำ ผลิตสมุนไพรปลอดภัยให้ได้มาตรฐาน GAP หรือเกษตรอินทรีย์ใช้เทคโนโลยีในการผลิต มีการปลูกแปลงใหญ่ สนับสนุนกลุ่มวิสาหกิจ สหกรณ์ กลางน้ำ การแปรรูปเบื้องต้น ผลิตภัณฑ์ ใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มมูลค่า มีนวัตกรรมต่อยอด มีการลงทุนวิจัย และปลายน้ำ ส่งเสริมตลาดชุมชน ออนไลน์ ตลาดกลางสมุนไพร
“การจัดงานในวันนี้ นับเป็นความร่วมมือของ 3 หน่วยงาน โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข และตลาดไท ที่มีเป้าหมายร่วมกันในการยกระดับระบบการผลิตและการกระจายวัตถุดิบสมุนไพรไทยให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส เป็นธรรม และสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ ตลาดกลางแห่งนี้จะทำหน้าที่เป็น “กลไกกลาง” ที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย เป็นเวทีในการพบปะเจรจาทางธุรกิจ แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ถ่ายทอดเทคโนโลยี และสนับสนุนการพัฒนาสู่มาตรฐานสากล เช่น GACP, Organic, หรือมาตรฐานคุณภาพอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และงานในครั้งนี้ยังเป็นสัญลักษณ์ของการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก ผ่านการเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรผู้ปลูกสมุนไพร และส่งเสริมการใช้ทรัพยากรท้องถิ่นอย่างรู้คุณค่าและยั่งยืน” รมช.อิทธิ กล่าว
สำหรับข้อมูลปัจจุบัน พบว่า เกษตรกรจำนวนมากหันมาสนใจปลูกพืชสมุนไพร โดยในปี 2567 มีพื้นที่ปลูกสมุนไพรกว่า 1,233,240 ไร่ และเกษตรกรประมาณ 526,422 ราย และมีพื้นที่ปลูกสมุนไพรที่ได้มาตรฐาน GAP และเกษตรอินทรีย์ รวมจำนวน 84,792 ไร่ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่มีพื้นที่ปลูก 1,151,494 ไร่ และเกษตรกร ประมาณ 369,351 ราย และมีพื้นที่ปลูกสมุนไพรที่ได้มาตรฐาน GAP และเกษตรอินทรีย์ รวมจำนวน 64,225 ไร่ ซึ่งการเปิดตลาดในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสในการเพิ่มกลุ่มผู้ขายวัตถุดิบสมุนไพรรายใหม่ เพิ่มความหลากหลายของสินค้าสมุนไพร และขยายตลาดกลุ่มผู้ซื้อให้มากยิ่งขึ้น และจะเป็นตลาดกลางสินค้าการเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บนพื้นที่ 542 ไร่
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ เรื่อง ตลาดกลางวัตถุดิบสมุนไพรคุณภาพ ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย นางสาวภัทราภรณ์ โสเจยยะ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข โดย นายพงศธร พอกเพิ่มดี รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และบริษัท ไทย แอ็กโกร เอ็กซเชนจ์ จำกัด (ตลาดไท) โดย นางสาววรามาศ ภัทรประสิทธิ์ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทย แอ็กโกร เอ็กซเชนจ์ จำกัด (ตลาดไท) โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อประชาสัมพันธ์ แนะนำตลาดกลางสมุนไพรไทยแห่งแรกของประเทศไทย เปิดโอกาสให้เกษตรกร ผู้ประกอบการสมุนไพร และผู้ซื้อ ผู้ใช้สมุนไพรมีโอกาสพบปะซื้อขาย และเข้าใจการค้าสมุนไพรผ่านระบบตลาดกลาง รวมทั้งส่งสริมการขายวัตถุดิบสมุนไพรสด และสมุนไพรแปรรูปทั้งภายในและต่างประเทศ ส่งเสริมเกษตรกรที่ผลิตสมุนไพรที่มีคุณภาพให้มีตลาดจำหน่ายวัตถุดิบสมุนไพร และเกิดความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการส่งเสริมเกษตรกรให้ผลิตและจำหน่ายวัตถุดิบสมุนไพรคุณภาพ โดยทั้ง 3 หน่วยงานจะร่วมกันสนับสนุน อำนวยความสะดวก และส่งเสริมความร่วมมือในการพัฒนาสมุนไพรไทยเพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรม ต่อไป
ทั้งนี้ ขอเชิญชวนเกษตรกร และผู้สนใจ เข้าร่วมงาน “ตลาดกลางวัตถุดิบสมุนไพร” ได้ตั้งแต่วันที่ 6 – 10 มิถุนายน 2568 ณ ตลาดไท ตลาดผักและสมุนไพร 2 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พบกับเวทีวิชาการ บริการสุขภาพ และนวัตกรรมด้านสมุนไพรที่น่าสนใจ รวมถึงร้านค้าจำหน่ายสมุนไพรสด เครื่องเทศสด วัตถุดิบสมุนไพรสดใหม่ส่งตรงจากเกษตรกร และผู้ค้าส่งตัวจริง ที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องปริมาณ คุณภาพ และความต่อเนื่องเพื่อผู้ประกอบการ และผู้ซื้อทุกระดับ พร้อมด้วยกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจขยายคู่ค้าทั้งในและต่างประเทศ และยังมีจุดบริการให้คำปรึกษาผ่านบริการจุดรวบรวมและเชื่อมโยงวัตถุดิบสมุนไพรอีกด้วย