“ไก่ดำ”นั้นมีต้นกำเนิดมาจากประเทศมองโกเลีย จนในปัจจุบันมีการแพร่พันธุ์จนเข้ามาถึงในประเทศไทย นอกจากนี้แล้วยังได้มีการนำไก่ดำไปปรับปรุงสายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้สายพันธุ์ที่ดียิ่งขึ้น เช่นสายพันธุ์ไก่ดำภูพานที่ถูกพัฒนาขึ้นมาโดย คณะทรัพยากรธรรมชาติและอุตสาหกรรมเกษตรมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อปรับปรุงพันธุ์ไก่ดำให้ดียิ่งขึ้น และช่วยส่งเสริมให้เกษตรกรไทยมีพันธุ์ไก่ดำไปเลี้ยงกันได้มากขึ้น
ในปัจจุบันนั้นยังมีความต้องการไก่ดำกันมากขึ้นไปอีก ไม่ว่าจะต้องการเลี้ยงเพื่อเพาะพันธุ์นำเนื้อไปขายหรือเลี้ยงเพื่อนำไว้เป็นอาหาร ก็ล้วนแต่เป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ผลิตต่างเริ่มคิดค้นปรับปรุงสายพันธุ์ไก่ดำหรือหันมาเลี้ยงไก่ดำกันมากยิ่งขึ้น เพราะประโยชน์ของไก่ดำนั้นนอกจากจะรับประทานเนื้อเป็นอาหารแล้ว สรรพคุณของไก่ดำยังสามารถออกฤทธิ์เชิงยาได้ด้วยไม่ว่าจะเป็นการลดโอกาสการเกิดโรคหัวใจ โรคเบาหวาน ลดการเกิดฝ้า หรือลดอาการปวดประจำเดือนได้ เพราะในเนื้อไก่ดำนั้นมีสารเมลานินอยู่ ทำให้มีประโยชน์เป็นอย่างมาก หากมีการนำมาแปรรูปได้ดี ไม่นานนักไก่ดำก็อาจจะเป็นไก่เนื้อที่สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านอย่างมหาศาลได้ รวมไปถึงอาจสามารถส่งออกไปต่างประเทศได้อีกด้วย
“ไก่ดำ” นั้นจะมีลักษณะภายนอกที่แตกต่างกันไปตามสายพันธุ์โดยในบางตัวอาจะมีขนสีขาว บางตัวก็อาจจะมีขนสีทอง ส่วนบางตัวก็อาจจะมีขนสีดำ แต่ถึงอย่างไรแล้วหากเป็นไก่ดำแท้ ก็จะต้องมี ปาก ลิ้น หงอน เล็บรวมทั้งผิวและอวัยวะต่างๆ ของร่างกายทั้งอวัยวะภายในนั้นจะต้องเป็นสีดำทั้งหมด
วิธีการเลี้ยงไก่ดำ เริ่มจากการหาลูกไก่ตัวผู้และตัวเมียหรืออาจจะหาไก่ที่เป็นแม่พันธุ์และพ่อพันธุ์มาเลี้ยงไว้ หากเป็นไก่ที่โตแล้วก็สามารถปล่อยให้หาอาหารกินเองตามธรรมชาติได้เลย เพื่อให้ไก่มีร่างกายที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาหารตามธรรมชาติก็จะมีไส้เดือน หญ้าและผักต่างๆ แต่หากเป็นลูกไก่แล้ว ก็ควรจะให้อาหารโดยการนำข้าวเปลือกมาผสมกับหยวกกล้วยสับและใบเตยหั่นฝอย เพียงเท่านี้ก็สามารถให้อาหารลูกไก่ได้อย่างครบถ้วนสารอาหารแล้ว เมื่อโตเต็มวัยจึงค่อยปล่อยให้หาอาหารได้เองตามธรรมชาติปกติ เลี้ยงเพียง 3 เดือนก็สามารถนำไปขายได้แล้ว ราคาจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 150-200 บาท
แต่หากต้องการจะขยายฟาร์มให้ใหญ่โตขึ้น เพื่อให้ได้รายได้มากขึ้น อาจจะต้องวางแผนในเรื่องของอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการโรงเรือนที่เหมาะสม ระบบการฟักที่ควบคุมสิ่งแวดล้อมได้ โดยอาจจะจัดตั้งเป็นกลุ่มผู้เลี้ยงไก่ดำเพื่อจะได้มีลดต้นทุนการผลิตลงได้ และยังสามารถมีอำนาจต่อรองกับพ่อค้าได้ด้วย
