วันที่ 27 ก.ย. 68 คณะผู้บริหารการยางแห่งประเทศไทย โดย นายสุขทัศน์ ต่างวิริยกุล รองผู้ว่าการด้านปฏิบัติการ นายณรงศักดิ์ ใจสมุทร รองผู้ว่าการด้านธุรกิจ และ นายโกศล บุญคง รองผู้ว่าการด้านบริหาร ซึ่งได้รับมอบหมายจาก ดร.เพิก เลิศวังพง รักษาการแทนผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย ให้ร่วมลงพื้นติดตามร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตลอดจนผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ และผู้แทนหน่วยงานในสังกัด ติดตามสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยาและรับฟังปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ รวมถึงการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท, เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี และเขื่อนพระราม 6 จ.พระนครศรีอยุธยา
สำหรับการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และการแก้ไขปัญหาในระยะยาว จำเป็นต้องมีการทบทวนกันใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดน้ำท่วมซ้ำซาก จึงขอให้ทำงานร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่ และหน่วยงานต่าง ๆ นอกจากนี้ อีกสิ่งที่สำคัญ คือ ต้องเร่งดำเนินการกำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำต่าง โดยให้เวลาแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุดภายใน 1 เดือน ทั้งนี้ ในช่วงฤดูน้ำแล้ง รมว.เกษตรฯ ได้สั่งการกรมชลประทานให้ประสานกับเจ้ากรมทหารช่าง จัดหางบประมาณในการขุดลอกเพื่อรองรับสถานการณ์ต่อไป
ในส่วนของกยท.นั้น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ว่า “ในวันที่ 2 ต.ค.นี้ จะมีการแถลงนโยบายของกระทรวงเกษตรฯ และในช่วงบ่าย ทั้ง 4 กระทรวง ที่ตนกำกับดูแลอยู่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์,กระทรวงศึกษาธิการ,กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การส่งเสริมการใช้ยางล้อรถจากการยางแห่งประเทศไทย (กยท.)เพื่อแก้ปัญหายางพาราราคาตกต่ํา ซึ่งหากใช้น้ำยางในการทําล้อรถยนต์ที่หน่วยราชการใช้อยู่ จะสามารถระบายน้ำยางได้จํานวนมหาศาล”
