ช่วงหนึ่งของการดูงานที่จีน ผมเจอแปลงมะเขือเทศขนาดเล็กอยู่ข้างเรือนกระจก ไม่มีเครื่องมือซับซ้อนอะไรเลย มีเพียงกล่องเล็ก ๆ เสียบอยู่ในดิน พร้อมสายต่อเข้ามือถือของเกษตรกรคนนั้น
เขาหยิบมือถือ ขึ้นมาแล้วพูดกับผู้บรรยายว่า “ผมไม่ต้องเดาอีกต่อไป…ดินจะบอกผมเองว่ามันต้องการอะไร” ตอนนั้นผมหยุดคิดเลยครับ
ข้อมูล ก็คือ “ปุ๋ยใหม่” ของเกษตรยุคนี้
ไม่ต้องใส่มาก แต่ถ้าใช้ถูกจุด พืชจะโตเร็ว คนจะเหนื่อยน้อยลง และกำไรจะเพิ่มขึ้น
จาก “ความรู้สึก” สู่ “ข้อมูลจริง”
เกษตรกรไทยหลายคนทำเกษตรเก่งมาก แต่ที่ผ่านมา เรามักใช้ “ความรู้สึก” ตัดสินใจมากกว่า “ข้อมูล”
อย่างเช่น…“วันนี้ร้อนน่าจะต้องรดน้ำเพิ่มหน่อย” “ฝนตกเมื่อคืน ไม่น่าต้องให้น้ำแล้วมั้ง” แต่ในความจริง บางครั้งอุณหภูมิแค่ 2 องศา หรือความชื้นดินต่างแค่ 5% ก็ทำให้พืชตอบสนองไม่เหมือนเดิมแล้ว
ข้อมูลช่วยให้เราตัดสินใจแม่นยำขึ้น ไม่ใช่เพราะเรารู้มากกว่าเดิม แต่เพราะเรารู้ “ถูกจุด” มากกว่าเดิม
เริ่มง่าย ๆ จากสิ่งที่เรามี
ข้อมูลไม่ได้แปลว่าต้องมีเครื่องวัดราคาแพง เริ่มจากสิ่งที่มีอยู่ในมือก่อนก็พอ
เช่น
1. จดวันปลูก–วันเก็บเกี่ยว ดูว่าวงจรไหนให้ผลดีที่สุด
2. วัดน้ำฝนหรือความชื้นในดิน ด้วยเครื่องราคาหลักร้อย
3. ถ่ายรูปพืชทุกสัปดาห์ เก็บไว้ในโฟลเดอร์ตามวัน
4. บันทึกราคาขายแต่ละรอบ จะรู้เลยว่าช่วงไหนควรปลูกเพิ่ม
ข้อมูลพวกนี้…ตอนแรกอาจดูเล็ก แต่พอเก็บต่อเนื่อง มันจะกลายเป็น “เข็มทิศของฟาร์ม” ได้เลยครับ
จากข้อมูลแปลงเดียว…สู่ข้อมูลชุมชน
ถ้าเกษตรกรในหมู่บ้านรวมกันแชร์ข้อมูล
อย่างเช่น
• พื้นที่ใครเจอโรคพืชก่อน
• ใครปลูกผักชนิดไหนช่วงไหน
• ราคาขายที่ตลาดเมื่อวานเท่าไร
ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยกันได้มาก เราจะไม่ต้องปลูกซ้ำชนกัน ไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูกซ้ำอีก
และนี่แหละ…คือรากของ “ระบบเกษตรแม่นยำแบบไทย” ที่เริ่มได้จากแปลงเล็ก ๆ ของเราเอง
ข้อมูลที่ดี…ไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่มันคือ “ความเข้าใจในดิน น้ำ และพืชของเรา” วันนี้ ถ้าเราเริ่มจด เริ่มเก็บ เริ่มสังเกต
อีกไม่นาน เราจะไม่ต้องทำเกษตรด้วยการเดาอีกต่อไป ปุ๋ยทำให้พืชเติบโต แต่ข้อมูล…ทำให้เกษตรกรเติบโต





