“กะเพรา”ราชินีสมุนไพร ที่มากด้วยประโยชน์

“กะเพรา” (ชื่อวิทยาศาสตร์: Ocimum tenuiflorum) และมีชื่อสามัญว่า Holy basil, Sacred basil อยู่ในวงศ์ Lamiaceae เป็นไม้พุ่ม ขนาดเล็ก สูงประมาณ 0.3 – 1.0 เมตร ลำต้นตั้งตรง ลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยม โคนต้นแข็ง มีขนคลุมทั่ว แตกกิ่งก้านสาขามาก และมีกลิ่นหอมแรง กะเพรามี 3 พันธุ์ คือ กะเพราะแดง กะเพราขาว และกะเพราลูกผสมระหว่างกะเพราแดงและกะเพราขาว

tnw2

มีลักษณะทั่วไปคล้ายโหระพา ต่างกันที่กลิ่นและกิ่งก้านซึ่งมีขนปกคลุมมากกว่า กะเพราขาว มีใบและลำต้นสีเขียว และกะเพราะแดง มีใบและลำต้นสีแดงอมเขียว

ในประเทศอินเดียถือว่า กะเพราเป็นสมุนไพร เป็นยาบำรุงชั้นยอด ทั้งขับไขมัน ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และยังเพิ่มน้ำนมสำหรับหญิงมีครรภ์ด้วย

thumb 0 7 2

มีสรรพคุณทางยาหลากหลาย เช่น…

1. ช่วยป้องกันไข้หวัด

2. แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน

3. ช่วยขับลมในกระเพาะ จุกเสียดแน่นท้อง

4. ช่วยฆ่าเชื้อจุลินทรีย์บางชนิดได้

5. ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันโรคเบาหวาน

6. ช่วยดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ ในเมนูกะเพรา เช่น ผัดกะเพรา

1467454481

ส่วนประกอบสำคัญอาหาร

ผัดกะเพรา (Pad Krapow) เป็นหนึ่งในเมนูอาหารจานโปรดและเป็นที่รู้จักมากที่สุดของไทย โดยเป็นการนำเนื้อสัตว์สับหรือหั่นชิ้น (เช่น หมู, ไก่, เนื้อวัว) มาผัดอย่างรวดเร็วกับพริก กระเทียม ปรุงรสด้วยน้ำปลา ซีอิ๊ว และซอสหอยนางรม แล้วใส่ใบกะเพราสดเป็นส่วนประกอบสำคัญ มักเสิร์ฟพร้อมข้าวสวยและไข่ดาวกรอบๆ

การปลูกต้นกะเพรานั้น ปลูกง่ายมากตามสไตล์ของผักสวนครัว ปลูกตรงระเบียงคอนโดก็ได้ วิธีง่ายๆ คือการปักชำตัดยอดกิ่งที่เป็นดอกออกแล้วก็นำไปปักในกระถางแบบเฉียงๆ กลบด้วยดินผสมปุ๋ยคอก แล้วคลุมด้วยฟาง ให้น้ำทุกเช้าเย็น แล้วก็รอกะเพราแตกใบประมาณ 30 วัน ก็พอจะได้ใบมาทำอาหารง่ายๆ

สำหรับเกษตรกรที่อยากปลูกแซมกับพืชชนิดอื่น ก็สามารถทำได้ง่ายๆ เพราะสมุนไพรตัวนี้มีความทนแล้งสูง วิธีการเพาะก็ไม่ยากนำเมล็ดพันธุ์ไปหว่านลงบนแปลงที่เตรียมไว้และโรยปุ๋ยอินทรีย์ ทับด้วยฟาง ให้น้ำด้วยสายน้ำที่บางๆ จากรูฝักบัวเล็กๆ เมื่อครบ 30 วันก็ถอนต้นกล้า เพื่อแยกลงดิน โดยปลูกให้ห่างราว 20 ซม. ระหว่างนั้นควรให้น้ำด้วยสปริงเกอร์ อย่างน้อยวันละ 10 นาที รอจนแตกใบให้เก็บเกี่ยวได้

การตัดใบเพื่อนำไปขายนั้น ควรตัดตอนเช้า เพราะพอตัดเสร็จ ใบกะเพราก็จะแตกยอดอ่อนมาใหม่ภายใน 1 สัปดาห์ ตัดเยอะก็แตกใบอ่อนเยอะ มีผลผลิตสูงขึ้น โดยระยะห่างของการเก็บเกี่ยวแต่ละรุ่นจะห่างกันราวๆ 2 สัปดาห์ ซึ่งต้นกะเพราต้นหนึ่ง สามารถให้ผลผลิตใบกะเพราได้ถึง 5-8 เดือน เรียกว่าปลูกครั้งเดียวเก็บทำกำไรได้ครึ่งปีกันเลย แม้ว่าราคาขายจะไม่สูงมาก แต่การดูแลก็ไม่ยุ่งยากเช่นกัน หากปลูกแบบผสมผสานกับสมุนไพรอื่นๆ จะทำให้มีรายได้หมุนเวียนอย่างต่อเนื่องเลย