น้ำ

กรมชลประทาน ขอความร่วมมือเกษตรกร ไม่เพาะปลูกข้าวนาปรังครั้งที่ 2 ลดความเสี่ยงผลผลิตเสียหาย และอาจส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำโดยรวม

กรมชลประทานตั้งโต๊ะวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ เตรียมปรับแผนระบายน้ำสำรองไว้ใช้ฤดูฝนหน้าโดยขณะนี้มีการจัดสรรน้ำในช่วงฤดูแล้งทั้งประเทศไปแล้วกว่า 12,771 ล้าน ลบ.ม. (52%)

กรมชลประทานติดตามสถานการณ์น้ำใกล้ชิด กำชับไปยังโครงการชลประทานโดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  ภาคกลาง  และภาคตะวันออก บริหารจัดการน้ำให้เหมาะสมสอดคล้องกับปริมาณน้ำในพื้นที่และเกิดประโยชน์สูงสุด 

กรมชลประทาน ไม่หวั่น เตรียมรับสถานการณ์ฝนน้อย กำชับไปยังโครงการชลประทานโดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  และภาคกลางให้ติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด  พร้อมนำสถิติฝนที่ผ่านมา มาวิเคราะห์คาดการณ์ปริมาณน้ำ เพื่อวางแผนการบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์และเกิดประโยชน์สูงสุด  

“อธิบดีชูชาติ” นำทีมกรมชลประทาน ขับเคลื่อนองค์กร สู่การบริหารจัดการน้ำยุคใหม่ ภายใต้แนวคิด “RID TEAM PLUS” เชื่อถือได้ หลากหลายนวัตกรรม นำสู่การพัฒนา

กรมชลประทาน เกาะติดสถานการณ์อุทกภัย จ.ปัตตานี เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าส่งเครื่องจักร เครื่องมือ เข้าไปติดตั้งในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน

ชป.วางแผนส่งน้ำฤดูแล้ง สร้างความมั่นใจน้ำอุปโภคบริโภคเพียงพอตลอดทั้งปี และยังได้ขอความร่วมมือหน่วยงานท้องถิ่น ให้ร่วมกันกำจัดผักตบชวาและสิ่งกีดขวางทางน้ำอย่างสม่ำเสมอ ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ถึงสถานการณ์น้ำและแผนการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ให้เกษตรกรและประชาชนได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง 

กรมชลประทานวางแผนส่งน้ำฤดูแล้ง สร้างความมั่นใจน้ำอุปโภคบริโภค เพียงพอตลอดทั้งปี พร้อมปฏิบัติตาม 9 มาตรการรับมือฤดูแล้งปี 2566/67 ตามที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(กนช.) เห็นชอบอย่างเคร่งครัด รวมทั้งจัดเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือไว้ประจำจุดเสี่ยง เพื่อให้สามารถเข้าไปช่วยเหลือประชาชนได้ทันที

ภาพรวมสถานการณ์น้ำในปัจจุบันดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทางตอนบนปริมาณฝนลดน้อยลง หลายพื้นที่สามารถเก็บกักน้ำได้มากขึ้น แต่ด้านกรมชลประทาน ไม่พัก แม้สถานการณ์น้ำหลายพื้นที่เริ่มคลี่คลาย เฝ้าระวังภาคใต้ต่อ

รมว.ธรรมนัส ติดตามสถานการณ์น้ำ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี พร้อมมอบหมายกรมชลประทานดำเนินการบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำทั้ง 4 ส่วนในพื้นที่ คือ น้ำเพื่ออุปโภค-บริโภค น้ำเพื่อการเกษตร น้ำเพื่ออุตสาหกรรม และน้ำเพื่อรักษาระบบนิเวศ