
นโยบายที่ 1 : นโยบายการพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ 1,343.3345 ล้านบาท
1.1 สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องและเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ
– ถ่ายทอดองค์ความรู้ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงแก่ประชาชน 620,000 ราย
– พัฒนาอุทยานหลวงราชพฤกษ์ให้เป็นแหล่งเรียนรู้
1.2 ดำเนินงานตามแนวพระราชดำริ
– ถ่ายทอดองค์ความรู้และพัฒนาอาชีพให้แก่เกษตรกรในพื้นที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริโครงการหลวง และพื้นที่สูง 200,000 ราย
นโยบายที่ 2 : นโยบายเร่งด่วน 14,126.0783 ล้านบาท
2.1 ผลักดันให้เกิดการปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ
– บริหารจัดการหนี้สินให้แก่สมาชิกสหกรณ์ 600 แห่ง สมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ 2,014 ราย
– พัฒนาอาชีพสมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ 150 องค์กร
2.2 ยกระดับการทำเกษตรแบบดั้งเดิมให้เป็นเกษตรทันสมัย
2.2.1 นำเทคโนโลยีด้านการเกษตรมาใช้พัฒนาอาชีพด้านการเกษตร
– เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวด้วยเทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ พื้นที่ 500 ไร่ เกษตรกร 177 ราย
– จัดทำแปลงถ่ายทอดเทคโนโลยีนวัตกรรมเกษตรสมัยใหม่ 6 แห่ง
2.2.2 เร่งเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร และราคาพืชผลการเกษตรรวมทั้งยกระดับรายได้ของเกษตรกร
1) ส่งเสริมเกษตรแปลงใหญ่ 1,631 แปลง
2) ส่งเสริมผลิตพันธุ์ดี : พันธุ์พืช 3.2 ล้านหน่วย เมล็ดพันธุ์ข้าว 204,070 ตัน ปศุสัตว์ 1.05 ล้านตัว สัตว์น้ำ 1,027 ล้านตัว
3) พัฒนาศักยภาพเกษตรกร 90,000 ราย โดยพัฒนาเกษตรกรปราดเปรื่อง ถ่ายทอดเทคโนโลยีผ่าน ศพก. 882 ศูนย์ ให้ความรู้ด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ การผลิตพืชสมุนไพร แมลงเศรษฐกิจ และพัฒนาเกษตรกรเพื่อให้บริการเครื่องจักรกลทางการเกษตร
4) บริหารจัดการผลิตสินค้าเกษตรตามแผนที่เกษตร (Agri-Map) 61,595 ไร่
1) ส่งเสริมและพัฒนาเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น 19 ผลิตภัณฑ์
2) ส่งเสริมเกษตรปลอดภัย โดยพัฒนาพื้นที่เกษตรกรรมยั่งยืน 260,000 ไร่ ตรวจรับรองแหล่งผลิตพืช ประมง ปศุสัตว์ 222,000 แห่ง
3) พัฒนาการแปรรูปผลผลิตจากข้าว กาแฟ ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ลำไย โกโก้ โคนม และโคเนื้อ
4) ส่งเสริมตลาดเกษตรกร 77 จังหวัด
#ส่งเสริมความเข้มแข็งของเกษตรกร/#สถาบันเกษตรกร
1) ส่งเสริมและพัฒนาสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร 9,539 แห่ง
2) ตรวจสอบบัญชีประจำปีสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร 11,400 แห่ง
2.3 ส่งเสริมการท่องเที่ยว และแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้าง
– เผยแพร่ประชาสัมพันธ์การจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก จังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569
นโยบายที่ 3 : นโยบายระยะกลาง และระยะยาว 93,341.3743 ล้านบาท
3.1 เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการที่ดินของรัฐ
– จัดที่ดินทำกินให้แก่เกษตรกร 42,000 ราย
– ปรับปรุง ส.ป.ก. 4-01 เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร 200,000 แปลง
3.2 ฟืนฟูทรัพยากรรรรมชาติ และสร้างให้มีส่วนร่วมกับการรับมือภัยธรรมชาติ
– ฟื้นฟูและป้องกันการชะล้างพังทลายของดิน 630,000 ไร่
– ส่งเสริมการลดการเผาในพื้นที่เกษตร 17,700 ราย
– ปฏิบัติการดัดแปรสภาพอากาศ บรรเทาฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือ กรุงเทพฯ และ ปริมณฑล
– ตรวจติดตามและเฝ้าระวังการทำประมงให้เป็นไปตามกฎหมาย 179,960 ครั้ง
3.3 ยกระดับการบริหารจัดการน้ำ แก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง
– จัดรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในพื้นที่ชลประทาน 48,354 ไร่
– บริหารจัดการพื้นที่ชลประทานเดิม 27.54 ล้านไร่
– จัดหาแหล่งน้ำและก่อสร้างชลประทาน เพื่อเพิ่มพื้นที่ชลประทาน 282,555 ไร่
– เพิ่มปริมาณการกักเก็บน้ำ/ปริมาตรน้ำต้นทุน 263.60 ล้าน ลบ.
– ปฏิบัติการฝนหลวง 1,610 ล้าน ลบ.ม.
– บริหารจัดการน้ำเพื่อป้องกันและลดผลกระทบจากอุทกภัย 229,496 ไร่
3.4 สานต่อนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอน
– ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในพื้นที่เกษตรกรรม 50,500 ไร่
3.5 ปฏิรูประบบราชการและกองทัพเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
– ปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกร : ด้านการเพาะปลูก 6,000,000 ครัวเรือน ด้านประมง 357,200 ราย ด้านปศุสัตว์ 2,885,000 ราย
– จัดทำสารสนเทศการเกษตร
– จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ด้านการเกษตร
– พัฒนาทักษะดิจิทัลสำหรับบุคลากรภาครัฐ และพัฒนาระบบดิจิทัลภาครัฐ 12 ระบบ สำหรับใช้ในการปฏิบัติงาน
3.6 ยกระดับการบริการภาครัฐให้ตอบสนองความต้องการของประชาชนมากยิ่งขึ้น
– พัฒนาระบบโลจิสติกส์การเกษตร 85 แห่ง
– พัฒนาหน่วยปฏิบัติการเคลื่อนที่ (Mobile Unit) เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรเชิงรุกในพื้นพื้นที่ 10 ล้านไร่
3.7 สานต่อนโยบายการทูต เศรษฐกิจเชิงรุก และสร้าง Soft Power
– ประชุมเจรจาแก้ไขปัญหาและเปิดตลาดสินค้าเกษตรและอาหาร 20 ครั้ง




