“ปลาจะละเม็ด” ภาษาอังกฤษ เรียกว่า White pomfret เป็นสัตว์น้ำทะเล ที่ชอบใช้ชีวิตแบบฝูง สามารถพบได้ในประเทศไทยทั้งฝั่งทะเลตะวันออกและฝั่งตะวันตก รวมไปถึงบริเวณที่มีน้ำกร่อย เป็นปลาที่มีรูปลักษณะแปลกเพราะลำตัวเป็นทรงสี่เหลี่ยมเปียกปูน ตัวสั้นและแบนเหมือนฝ่ามือ เนื้อละเอียด แต่ก่อนถือว่าเป็นเมนูระดับภัตตาคารหรูเท่านั้น เพราะหายาก เมนูยอดฮิตได้แก่ ปลาจะละเม็ด นึ่งมะนาว นึ่งซีอิ๊ว นึ่งบ๊วย ราดพริก

“ปลาจะละเม็ด” จะมีปลาอีกชนิดหนึ่งที่มีลักษณะใกล้เคียงกันแต่เป็นปลาน้ำจืด ชื่อ ปลาคู้ หรือ เปคู ที่ถูกขนานนามว่าเป็น ปลาจะละเม็ดน้ำจืด แต่มีลำตัวที่ใหญ่แตกต่างกันมาก
กลับมาที่เรื่องปลาจะละเม็ด ปลาชนิดนี้จะมีทั้ง ปลาจะละเม็ดขาว ปลาจะละเม็ดทอง ปลาจะละเม็ดเทาและปลาจะละเม็ดดำ ซึ่งสีขาวจะเป็นที่นิยมของผู้บริโภคมากที่สุด ปลาจะละเม็ดขาวนั้น ชาวแต้จิ๋วเรียกกันว่าปลาแปะเซีย ตัวยาวประมาณ 1-2 ฟุต เนื้อปลานั้นมีรสหวาน เนื้อเนียนนุ่ม ก้างบางและอ่อน ถ้าทอดจนเกรียมกรอบสามารถเคี้ยวก้างได้สบาย ราคาจะย่อมเยากว่าปลาจะละเม็ดอีกพันธุ์ที่กำลังจะกล่าวถึง

ต่อมาเราจะมาพูดถึงปลาจะละเม็ดที่มีลำตัวเป็นสีเทาเงิน ปลาชนิดนี้เราเรียกกันว่าปลาเต๋าเต้ย เต๋าโต้ย หรือ ปลาฮ่องเต้ แค่ชื่อก็สุดหรูกันแล้ว ปลาชนิดนี้เป็นปลาจะละเม็ดที่อาศัยอยู่ในน้ำทะเลลึก มีขนาดลำตัวที่ใหญ่ ก้างน้อยมาก เนื้อนุ่ม รสชาติหวาน สามารถนำมาแล่เนื้อปรุงอาหารได้หลากหลายเมนู เพราะตัวใหญ่จึงมีเนื้อเยอะ ราคาเนื้อสดที่ขายในท้องตลาดจึงแพงกว่าปลากะพงขาว ราคาตัวละไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท ซึ่งปลาทั้งสองชนิดนี้ คนส่วนใหญ่มักจำสับสนกันมาก
ปลาจะละเม็ดมีประโยชน์ สำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์ เพราะมีโอเมก้าสูง มีไขมันต่ำ ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการระบบสมอง ประสาท และสายตาของเด็กในครรภ์ สารอาหารที่เด่นๆ ใน ปลาจะละเม็ดคือโอเมก้า-3 ที่ถูกจัดให้เป็นไขมันมหัศจรรย์ เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่มีโครงสร้างแบบเชิงเดียว ที่ร่างกายเราสร้างเองไม่ได้ แต่มีความสำคัญต่อร่างกาย ถ้าต้องการโอเมก้า-3 ก็คือต้องรับประทานเข้าไปเท่านั้น และปลาจะละเม็ดมีโอเมก้าชนิดนี้สูงกว่าปลาชนิดอื่น
ดังนั้นเมื่อเรารับประทานปลาจะละเม็ดขาว ปลาจะละเม็ดดำ หรือ ปลาจะละเม็ดน้ำลึกอย่างเต๋าเต้ยไป เราก็จะได้รับโอเมก้า-3 ตามมาด้วย ซึ่งจะช่วยบำรุงสมอง ระบบประสาท และบำรุงตับด้วย นั่นคือเหตุผลที่คนนิยมรับประทานปลาชนิดนี้กัน




