
เมื่อ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า”กำลังจะกลับมาคุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด มาพร้อมกับ“ฆ้อนอาญาสิทธิ์” การกลับมาครั้งนี้เป็นการกลับมา ที่เป็นตัวของตัวเองมากที่สุด จากสีเสื้อ “พลังประชารัฐ” สู่ “พรรคกล้าธรรม” ในบทบาทของ “กุญซือใหญ่“ หรือ ”ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม” หรือจะพูดกันตรงๆ นี่คือ “นายใหญ่“ พรรคกล้าธรรมไม่มีใครใหญ่กว่านี้อีกแล้ว

เมื่อพี่ใหญ่กำลังหอบหิ้วรัฐมนตรีช่วยน้องใหม่อีก 2 คน คือ นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ สส.เชียงใหม่ และ นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส มาชิมรางเป็นรัฐมนตรีใหม่ป้ายแดง

โอกาสแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ เพราะพรรคกล้าธรรม มีสส.ในสังกัดตามคำอภิปรายของนายอรรถกร ศิริลัทธยากร คือ 31 คน กับตำแหน่ง 1 รองนายกรัฐมนตรี 4 รัฐมนตรีว่าการ 3 รัฐมนตรีช่วย นี่คือ สัดส่วนพรรคการเมืองที่ได้เก้าเยอะที่สุดเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยสส.ในสังกัด เสียดายอย่างเดียว 8 เก้าอี้ 7 คนจากกล้าธรรม (ผู้กองธรรมนัสควบรองนายกและรมว.เกษตรฯ) ไม่มีสส.ที่มาจากอีสาน
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังไง ”ผู้กองธรรมนัส“ คนเดียวก็เอาอยู่ แต่มี รมช.เพิ่มอีก 2 น่าจะทำงานได้ลื่นไหลขึ้นมากขึ้น

คาดกันว่า หลังจากรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ “นัมเบอร์วัน”ในปี 2566 หรือ ”เทพธ.“ ในปี 2567 จะเปิดเกมเดินสายต่อ ไม่รอเลือกตั้ง เป็นกระทรวงที่ไร้รอยต่อ เดินหน้าได้เต็มที่ อย่าลืม แม้ในสถานการณ์ปกติ ก็เดินสายทำงานแทบไม่มีวันหยุดอยู่แล้ว ยิ่งเจอ 4 เดือนเดินหน้ายุบสภาฯ ใส่ไม่ยั้งแน่นอน

ใครชอบเกียร์ว่าง ติดบ้าง ปล่อยไหลบ้าง นี่ต้องขันน็อตเตรียมรอเลย




