เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 นายสุรพงษ์ อินทรถาวร โฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดคดีสำคัญกรณีร่ำรวยผิดปกติ

กรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด นายคณิต ชินวงศ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาราชบุรีฝั่งขวา สำนักงานชลประทานที่ 13 ร่ำรวยผิดปกติ รวมเป็นเงินจำนวน 14,050,000 บาท
ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนปรากฏว่า ในระหว่างปี พ.ศ. 2562 – 2567 นายคณิต ชินวงศ์ ขณะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาราชบุรีฝั่งขวา สำนักงานชลประทานที่ 13 มีรายได้จากการรับราชการตามแบบแสดงภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ระหว่างปี 2560 – 2565 ประมาณ 329,728 – 806,614 บาทต่อปี โดยไม่ได้ประกอบอาชีพอื่น
แต่ในปี พ.ศ. 2566 นายคณิต ชินวงศ์ มีสลากออมทรัพย์ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ซึ่งไม่สามารถพิสูจน์หรือแสดงที่มาของรายได้ที่นำมาซื้อสลากออมทรัพย์เป็นเงินจำนวน 14,050,000 บาทได้
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติดังนี้
นายคณิต ชินวงศ์ ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ หรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่มีมูลอันจะอ้างได้ตามกฎหมายสืบเนื่องมาจากการปฏิบัติตามหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ รวมเป็นเงินจำนวน 14,050,000 บาท ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน และความเห็นไปยังอัยการสูงสุดเพื่อยื่นคำร้องต่อศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติตกเป็นของแผ่นดิน และให้แจ้งคำวินิจฉัยพร้อมด้วยข้อเท็จจริงโดยสรุปไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อสั่งลงโทษไล่ออกภายในหกสิบวัน โดยให้ถือว่ากระทำการทุจริตต่อหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 122 วรรคหนึ่ง และวรรคสาม ต่อไป




