ศูนย์เรียนรู้ลดโลกร้อนแห่งแรกและแห่งเดียวในไทยแปลงใหญ่เกษตรสมัยใหม่ (ข้าว) ตำบลเดิมบาง อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี

fe2d7e40 8893 4c4f aa55 0ff06abcd507 1

นับเป็นกลุ่มที่ประสบความสำเร็จ และมีความโดดเด่นในการผลิตข้าวแบบยั่งยืน ด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่มาปรับใช้ในการ ผลิตข้าว ทำการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จนได้รับการยกย่องให้เป็นศูนย์เรียนรู้ลดโลกร้อนแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย

โดยกลุ่มมีเป้าหมายสำคัญในการผลิตข้าวคุณภาพควบคู่ไปกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

S 20775005

จุดเริ่มต้นสำคัญเกิดจากการรวมตัวกัน ของสมาชิก “ศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน (ศจช.)” เมื่อปี พ.ศ. 2554 เพื่อแก้ปัญหาเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลที่ระบาดรุนแรงโดยใช้สารชีวภัณฑ์ (เชื้อราบิวเวอเรีย) ในการควบคุมศัตรูพืชแทนสารเคมีได้ผลสำเร็จ

LINE ALBUM Focus Group แปลงใหญ่เดิมบาง 251204 41 0 1

ต่อมาในปี 2558 ได้พัฒนาเป็น“ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพสินค้าเกษตร” และในปี 2559 จึงได้รวมกลุ่มกันเป็นกลุ่มนาแปลงใหญ่ ปัจจุบันมีสมาชิก 132 ราย และครอบคลุมพื้นที่การผลิตข้าวกว่า 6,000 ไร่ เพาะปลูกข้าวพันธุ์ ปทุมธานี1 กข95 กข41 กข85 และ กข79

LINE ALBUM Focus Group แปลงใหญ่เดิมบาง 251204 15 0 1

โดยกลุ่มฯ มีการใช้เทคโนโลยี (IoT) เซ็นเซอร์วัดค่าความชื้น อุณหภูมิ สารอาหารในดิน และใช้ในการเฝ้าระวังโรคและแมลงศัตรูพืชเพื่อให้สามารถจัดการได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งการใช้แผนที่ดาวเทียมข้อมูลสถิติการเกษตรเข้ามาช่วยบริหารจัดการพื้นที่เกษตรตั้งแต่กระบวนการเพาะปลูกจนถึงการเก็บเกี่ยว

LINE ALBUM Focus Group แปลงใหญ่เดิมบาง 251204 19 0 1

ที่เป็นจุดเด่นคือการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี “4ป + 1IPM” ได้แก่ ป1 การปรับระดับพื้นที่ด้วยเลเซอร์ , ป2 การทำนาแบบเปียกสลับแห้ง , ป3 การใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน และ ป4 การแปรสภาพฟางและไถกลบตอซังข้าว และสุดท้ายคือ 1IPM การจัดการศัตรูพืชด้วยวิธีผสมผสาน

LINE ALBUM ลงพื้นที่แปลงใหญ่งานวิจัย แปลงใหญ่เด 1

ปัจจุบันกลุ่มมีการประยุกต์ใช้ทั้งองค์ความรู้ และการนำเทคโนโลยี “4ป + 1IPM” มาใช้ในการทำนา และมุ่งเน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHGs) ส่งผลให้กลุ่มแปลงใหญ่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวมเฉลี่ย 507.88 kgCO2​e/ไร่ (กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อพื้นที่หนึ่งไร่) ในขณะที่เกษตรกรที่ปลูกข้าวแบบทั่วไปในพื้นที่ปล่อยก๊าซรวม 913.79 kgCO2​e/ไร่ มีความแตกต่างกันถึง 57.10%

โดยเฉพาะการปล่อยก๊าซมีเทน (CH4) ซึ่งเป็นหนึ่งในก๊าซเรือนกระจกที่พบมากที่สุดในกระบวนการผลิตข้าว พบว่ารูปแบบการทำนาของกลุ่มฯ มีการปล่อยก๊าซมีเทนที่ 428.61 kgCO2​e/ไร่ ส่วนการปลูกข้าวแบบทั่วไปในพื้นที่มีการปล่อยก๊าซมีเทน 692.12 kgCO2​e/ไร่ มีความแตกต่างกันถึง 47.03% เป็นผลมาจากการที่กลุ่มฯมีการทำนาแบบ “เปียกสลับแห้ง” ซึ่งช่วยลดระยะเวลาการขังน้ำในนาข้าว และ “การปรับระดับดิน ด้วยระบบเลเซอร์”ซึ่งช่วยให้เกษตรกรสามารถควบคุมระดับน้ำในแปลงนาได้ง่ายขึ้น ช่วยประหยัดน้ำ อีกทั้งยังช่วยลดการเกิดก๊าซมีเทนได้เป็นอย่างดี

LINE ALBUM 2025.12.3 251204 4 0 1

นอกจากนี้ยังพบว่า การใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินของกลุ่มฯ ส่งผลให้ปริมาณการปล่อยก๊าซไนตรัสออกไซด์ (N2​O) อยู่ที่ 32.99 kgCO2​e/ไร่ เปรียบเทียบกับการใช้ปุ๋ยในการทำนาแบบทั่วไปในพื้นที่ซึ่งมีการปล่อยก๊าซไนตรัสออกไซด์อยู่ที่ 53.83 kgCO2​e/ไร่ ต่างกันถึง 47.99%

ซึ่งสะท้อนถึงประสิทธิภาพของการใช้ “ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน” โดยใช้ปุ๋ยไนโตรเจนได้อย่างเหมาะสมตามผลตรวจวิเคราะห์ดิน ลดการใส่ปุ๋ยเกินความจำเป็น ลดการสูญเสียไนโตรเจนที่ระเหยและกลายเป็นก๊าซเรือนกระจก และยังช่วยลดโลกร้อนได้อีกด้วย

ดังนั้นจึงเป็นอีกเหตุผลที่ช่วยบ่งชี้ว่าการใช้เทคโนโลยี และปรับเปลี่ยนวิธีการจัดการในการผลิตข้าวช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมาก

ทั้งนี้ ผลจากการใช้เทคโนโลยี ร่วมกับองค์ความรู้ต่าง ๆ นอกจากเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตแล้วยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพยกระดับการผลิตข้าวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

กลุ่มแปลงใหญ่เกษตรสมัยใหม่ (ข้าว) ตำบลเดิมบาง อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาการผลิต การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อมุ่งสู่การทำการเกษตรแม่นยำสูง นับเป็นต้นแบบที่ชัดเจนในการทำเกษตรสมัยใหม่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม รักษ์โลกอย่างยั่งยืน

หากท่านใดสนใจข้อมูล หรือสนใจศึกษาดูงาน สอบถามเพิ่มเติมได้ที่คุณสวณีย์ โพธ์รัง ผู้จัดการกลุ่มฯ โทร. 08 6805 5479

(ที่มาสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร)