“แค” ผักพื้นบ้านมหัศจรรย์ เป็นทั้งอาหารและยา สร้างรายได้อีกทางหนึ่ง

“แค” เป็นพืชสมุนไพรที่มีเฉพาะในแถบเอเชียบางประเทศ เป็นต้นไม้ขนาดกลาง จัดว่าเป็นพืชสมุนไพรที่ชาวต่างชาติมองว่าเป็นของหายาก และมีราคาสูง แต่ในประเทศไทยเรากลับหาง่าย “แค” คือผักชนิดหนึ่ง แต่ในทางสมุนไพรศาสตร์ “ดอกแค” จัดว่าเป็นพืชสมุนไพร เพราะสมัยโบราณดอกแคเป็นยาแผนโบราณที่อุดมไปด้วยคุณค่า มีทั้งวิตามิน เบต้าแคโรทีน ธาตุเหล็ก และให้โปรตีนแก่ร่างกายได้ ดอกแคต้มนิยมนำไปกินกับน้ำพริก และยังสามารถใช้ประกอบอาหารประเภทแกงได้ด้วย

“แค “เป็นผักพื้นบ้านที่ปลูกอยู่ในประเทศไทยเรามาช้านาน เป็นต้นไม้ที่ให้ผลผลิต เป็นสมุนไพรให้ผู้คนได้ใช้ประโยชน์เป็นทั้งอาหารและยาที่เกิดขึ้นมาตามธรรมชาติ ที่คนโบราณมักนำดอกแคที่บานเต็มที่ในช่วงปลายฝนต้นหนาว ที่อากาศกำลังเปลี่ยนแปลง ทำให้เด็กๆ อาจจะเจ็บไข้ได้ง่าย นำมาปรุงเป็นอาหาร ทั้งแกง ผัด และลวก มารับประทานเพื่อป้องกันอาการป่วยไข้ แต่ในปัจจุบันเมื่อชุมชนเมืองขยายตัวเพิ่มขึ้น พื้นที่สำหรับผักพื้นบ้านเริ่มหดตัวลง ทำให้ต้นแคมีปริมาณลดน้อยลง จนจำเป็นต้องมีการปลูกต้นแคเพื่อนำดอก ฝักอ่อน ใบและยอดที่มีโปรตีนสูงมาบรรจุใส่บรรจุภัณฑ์ขายขึ้นห้างให้แก่คนเมืองที่ใส่ใจสุขภาพ ทำให้ “แค”กลายเป็นผักเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ได้ดีทีเดียว

1598231461

ต้นแคนั้น สันนิษฐานว่าพบเห็นครั้งแรกในพื้นที่เอเชียอาคเนย์หรืออินเดีย เป็นไม้ยืนต้นขนาดปานกลาง มีกิ่งแขนงจำนวนมาก แตกจากลำต้นแบบกระจัดกระจาย ลำต้นสูงเต็มที่ไม่เกิน 10 เมตร อายุยาวนานถึง 20 ปี จัดเป็นไม้เนื้ออ่อน เปลือกไม้หนามีสะเก็ดตามรอยแตกระแหงของเปลือกไม้สีเทาแก่ พบได้ในป่าธรรมชาติทั่วไป ชอบอากาศร้อนชื้นจึงสามารถปลูกได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย แต่แหล่งผลิตที่สำคัญเพื่อการค้า คือจังหวัดในแถบภาคกลาง เช่น สุพรรณบุรี นครสวรรค์ เป็นต้น

ดอกแค

ใบแคจะผลิตามก้านใบในลักษณะสลับกัน ขอบใบเรียบขนาดเท่ากันแต่ปลายใบมนผายออก ยาว 3 เซนติเมตร กว้าง 1 เซนติเมตร ส่วนของดอกจะมีลักษณะคล้ายดอกของถั่วขนาดใหญ่ สีขาวหรือแดงแล้วแต่พันธุ์ มีกลิ่นหอมละมุน ด้านในมีก้านเกสร ให้ผลเป็นฝักสีเขียวอ่อนยาวมากสุดถึง 15 เซนติเมตร มีเมล็ดเป็นลิ่มกลมแป้นอยู่ด้านในจำนวนมาก

istock 89385441 large

ประโยชน์ของต้นแค นอกจากนำมาทำเป็นอาหารและสมุนไพรแล้ว  ยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อีกหลายประการ เช่น ปลูกไว้เป็นรั้วบ้าน หรือระบุเขตแดนตามคันนา และยังสามารถนำมาปลูกเพื่อปรับปรุงสมบัติในดินได้ เพราะรากต้นแคจะมีปมรากมากซึ่งเป็นแหล่งสะสมของจุลินทรีย์ที่ดี เพื่อตรึงธาตุไนโตรเจนนำมาผลิตเป็นอาหารของพืช เพื่อลำเลียงไปใช้ประโยชน์ในการเจริญเติบโตของส่วนต่างๆ ของพืชต่อไป ส่วนของใบแคยังสามารถนำมาใช้เป็นอาหารเลี้ยงปศุสัตว์ประเภทเคี้ยวเอื้อง เช่น โค กระบือ เป็นต้น เพราะมีโปรตีนสูง ลำต้นของต้นแคยังเป็นวัสดุเพาะเห็ดหูหนูชั้นดีได้อีกด้วย

40008546 318447132239093 6702784025800474624 n

จากตลาดที่เติบโตที่ผู้บริโภคมีความใส่ใจมากขึ้น ผักพื้นบ้านต่างๆ รวมทั้งแค ยังมีโอกาสเติบโตทางการตลาดอีกมาก หาก เกษตรกรสนใจปลูกเป็นไม้แซมเพื่อเก็บผลผลิตขายก็จะสามารถสร้างรายได้เสริมได้อีกทางหนึ่ง หรือจะปลูกไว้เป็นสมุนไพรสามัญประจำบ้านก็ดีไม่น้อยเลย