
การเข้าไปสนับสนุนเกษตรกรในพื้นที่โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ตามแนวทางของคณะกรรมการนโยบานที่ดินแห่งชาติ หรือ คทช. ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานหรือรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายอย่างเป็นระบบครบวงจร ถือเป็นเป้าหมายสำคัญของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ในฐานะเลขานุการ คทช. และคณะอนุกรรมการส่งเสริมพัฒนาอาชีพและการตลาด (คณะอนุ 3) โดยมุ่งเน้นการรวมกลุ่ม เพิ่มทักษะอาชีพ การเข้าถึงเงินทุน และการยกระดับผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่

ปัจจุบันกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้จัดตั้งสหกรณ์ในพื้นที่ คทช. แล้ว รวมทั้งสิ้น 154 พื้นที่ แบ่งเป็น กลุ่มเกษตรกร 35 พื้นที่และสหกรณ์ 119 พื้นที่ กระจายอยู่ในพื้นที่ประเภทต่าง ๆ ได้แก่ ป่าสงวนแห่งชาติ 105 พื้นที่, พื้นที่ปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) 23 พื้นที่, พื้นที่สาธารณประโยชน์ 14 พื้นที่, นิคมสร้างตนเอง 7 พื้นที่, ที่ราชพัสดุ 3 พื้นที่, และพื้นที่ป่าชายเลน 2 พื้นที่ โดยการจัดตั้งกลุ่มดังกล่าวช่วยให้เกษตรกรสามารถรวมกลุ่มกันอย่างเป็นระบบ มีช่องทางในการเข้าถึงเงินทุน ปัจจัยการผลิต และตลาดได้ดีขึ้น ทั้งยังช่วยเพิ่มเสถียรภาพการประกอบอาชีพ และสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงเกษตรฯ

สหกรณ์การเกษตรบ้านดงกล้วยในเขตปฏิรูปที่ดิน จำกัด ต.นาจำปา อ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์ 1 ในสหกรณ์ที่ประสบความสำเร็จที่ได้รับการจัดตั้งในพื้นที่ คทช .ถือเป็นสหกรณ์โดดเด่นเป็นต้นแบบในโครงการจัดสรรที่ทำกิน ในพื้นที่ คทช. จนถูกยกให้เป็น “ดงกล้วยโมเดล” เพื่อเป็นแบบอย่างให้กับสหกรณ์อื่น

สหกรณ์แห่งนี้จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2558 หลังทางการเข้าไปยึดพื้นที่จากนายทุนมาจัดสรรที่ทำกินให้กับชาวบ้านในพื้นที่ โดยมีสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือดูแล รวมทั้งกรมส่งเสริมสหกรณ์ ในการเข้าไปจัดตั้งกลุ่มสหกรณ์เพื่อง่ายต่อการบริหารจัดการพื้นที่และเกษตรกรในโครงการ

“เมื่อก่อนเป็นป่ายูคาฯ ทางการได้เข้าไปยึดสมัย คสช. มาจากนายทุนแล้วนำมาจัดสรรให้ชาวบ้าน ในพื้นที่ทำกิน โดยให้ ส.ป.ก. เข้าไปดูแล มีเนื้อที่ทั้งหมด 772 ไร่ ปัจจุบันมีสมาชิกอยู่ 71 ราย เสียชีวิตไปบ้าง และขาดสมาชิกภาพบ้าง โดยได้จัดสรรพื้นที่ทำกินให้รายละ 2.2 ไร่ คิดค่าเช่าสมาชิกไร่ละ 320 บาทต่อปี ส่งให้กับทางส.ป.ก.” เกศราภรณ์ โพธิ์ศรี ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรบ้านดงกล้วยในเขตปฏิรูปที่ดิน จำกัด เผย

เธอกล่าวต่อว่า หลังจากจัดตั้งเป็นสหกรณ์ในปี 2558 ภายใต้ชื่อสหกรณ์การเกษตรบ้านดงกล้วยในเขตปฏิรูปที่ดิน จำกัด ทางกรมส่งเสริมสหกรณ์ โดยสำนักงานสหกรณ์จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เข้ามาแนะนำส่งเสริม อาชีพต่าง ๆ พร้อมมอบอาคารสำนักงานให้ 1 หลัง ใช้เป็นที่ทำการ แล้วสหกรณ์ก็ได้กู้เงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์จำนวน 7 แสนบาท นำมาปล่อยกู้ให้กับสมาชิกในการประกอบอาชีพต่าง ๆ ปัจจุบันมีการจัดตั้งกลุ่มอาชีพ 3 กลุ่ม เฉลี่ยกลุ่มละ 20 ราย ได้แก่ กลุ่มเลี้ยงจิ้งหรีด กลุ่มพืชผักสมุนไพร และกลุ่มปลูกหม่อนเลี้ยงไหม

“เรื่องตลาดไม่มีปัญหา จิ้งหรีดจะมีพ่อค้ามารับซื้อส่งต่างประเทศ ส่วนกลุ่มผักสมุนไพรส่งให้โรงครัวผลิตผัก ให้เซเว่นอาทิตย์ละครั้ง ๆ ละ 100 กิโล ต่อชนิดพืช ถ้าเต็มโควตาอาทิตย์ละ 2 รอบ อย่างกะเพรา โหระพา ใบมะกรูด ตอนนี้ส่งอาทิตย์ละ 2 รอบ ๆ ละ100 กิโล แต่บางช่วงมีปัญหาเรื่องน้ำไม่สามารถส่งให้ได้ตามโควต้า ส่วนอีกกลุ่มปลูกหม่อนเลี้ยงไหม เราผลิตเส้นไหมส่งให้กับศูนย์ผ้าไหมแพรวาและตุลไหมไทย เป็นหลัก จุดเด่นเส้นไหมที่นี่ เส้นใหญ่รังหนาทำให้สาวได้เยอะ แต่ช่วงนี้ผลิตออกมาน้อยเพราะมีปัญหาเรื่องน้ำ เนื่องจากในพื้นที่ต้องพึ่งพา น้ำบาดาลเป็นหลัก” ผู้จัดการสหกรณ์ฯ คนเดิมระบุ

เกศราภรณ์ ยอมรับว่า เกษตรกรที่นี่ทำหลายอาชีพ แต่ละอาชีพก็มีการต่อยอดไปสู่อาชีพที่หลากหลายมากขึ้น อย่างกลุ่มปลูกหม่อนเลี้ยงไหมก็จะต่อยอดมาผลิตเส้นไหมเพิ่มมูลค่ามากกว่าปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเพียงอย่างเดียว ในส่วนของสหกรณ์ก็จะดูแลเรื่องการตลาดให้ทั้งหมด โดยจะหักรายได้จากยอดขายร้อยละ 5 เพื่อนำมาบริหารจัดการสหกรณ์

“รายได้เฉลี่ยของสมาชิกแต่ละราย ถ้าเป็นกลุ่มพืชผักสมุนไพรจะอยู่ที่ 500-600 บาท/สัปดาห์ หรือเดือนละ 2 – 3 พันบาท กลุ่มเลี้ยงจิ้งหรีดเฉลี่ยอยู่ที่ 5,000 – 7,000 บาท ต่อเดือน ส่วนกลุ่มหม่อนไหม จะอยู่ที่ 8,000-10,000 ต่อรอบ ซึ่งใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 20 วัน” ผู้จัดการสหกรณ์ฯ คนเดิมกล่าว

ขณะที่ สุพรรณิกา คำชมพู นักวิชาการสหกรณ์ กลุ่มงานส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจสหกรณ์ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการเข้าไปแนะนำส่งเสริมพัฒนาอาชีพให้กับสมาชิกสหกรณ์การเกษตรบ้านดงกล้วยในเขตปฏิรูปที่ดิน จำกัดมาตั้งแต่เริ่มต้น จึงได้เห็นพัฒนาการด้านต่าง ๆ ในทุกช่วงเวลา ซึ่งสมาชิกก็ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

“ปกติก็จะมีทีมงานสหกรณ์จังหวัดเข้าไปร่วมประชุมกับทางสหกรณ์ทุกเดือน ๆ ละครั้งเพื่อรับฟังปัญหา ข้อเสนอแนะต่าง ๆ เพื่อจะได้นำมาแก้ไขร่วมกัน ตอนนี้เท่าที่รับฟังก็จะมีเรื่องน้ำอย่างเดียวที่ยังเป็นปัญหา เพราะที่นี่ต้องใช้น้ำบาดาลอย่างเดียว ยิ่งช่วงหน้าแล้งจะหนักสุด” นักวิชาการสหกรณ์ คนเดิมกล่าวย้ำ

สหกรณ์การเกษตรบ้านดงกล้วยในเขตปฏิรูปที่ดิน จำกัด อีกสหกรณ์ที่ประสบความสำเร็จ ภายใต้โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ตามแนวทางของคณะกรรมการนโยบานที่ดินแห่งชาติ หรือ คทช.ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมส่งเสริมสหกรณ์











