เทหมื่นล้าน แก้ปุ๋ยแพง

เจาะกลางใจ โดย “ขุนพิเรนทร์”

สมมุตินะครับถ้าแฟนเพจเรื่องเล่าข่าวเกษตรเป็นรัฐบาลและมีเงิน 14,443.8924 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาปุ๋ยแพงในระยะสั้น ให้กับเกษตรกรทั้งประเทศ จะทำอย่างไร

“ขุนพิเรนทร์” เลียบเลาะแถวถนนราชดำเนินได้ยินเสียงนกพิราบสาวๆคุยกันพอจะจับใจความได้ว่า ถ้าเขาเป็นรัฐบาลจะแก้ปัญหาปุ๋ยแพงระยะสั้นๆแบบนี้

  1. โครงการบริหารจัดการปุ๋ยเคมีเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างช่องทางให้เกษตรกร/สถาบันเกษตรกรเข้าถึงปุ๋ยเคมีราคาถูก 10,563.000 ล้านบาท ดำเนินการผ่านกิจกรรมต่างๆ

1.1 ชดเชยราคาปุ๋ยเคมีให้แก่เกษตรกร สมาชิกสถาบันเกษตรกร
กระสอบละ 200 บาท รายละไม่เกิน 10 ไร่ (อัตราไร่ละ 1 กระสอบ) จำนวน 2.5 ล้านตัน (50 ล้านกระสอบ)

1.2 ชดเชยค่าบริหารจัดการให้แก่สถาบันเกษตรกร กระสอบละ 10 บาท จำนวน 2.5 ล้านตัน (50 ล้านกระสอบ)

โครงการนี้ตั้งเป้าหมายช่วยเกษตรกร 5 ล้านราย

2.โครงการส่งเสริมการผลิตและใช้ปุ๋ยอินทรีย์และวัสดุอินทรีย์เพื่อแก้ไขปัญหาปุ๋ยเคมีราคาแพง มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกษตรกรลดต้นทุนการผลิตโดยการใช้ปุ๋ยอินทรีย์และวัสดุอินทรีย์ ส่งเสริมเกษตรกรให้ใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินลดการใช้ปุ๋ยเคมี 3,485.5632 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการย่อย ดังนี้

2.1โครงการส่งเสริมการผลิตปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในสถานการณ์ปุ๋ยเคมีราคาแพง 3,000 ล้านบาท

2.2 โครงการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรที่ผลิตเมล็ดพันธุ์พืชปุ๋ยสด 165 ล้านบาท

2.3 โครงการรณรงค์การผลิตและใช้ปุ๋ยอินทรีย์และวัสดุอินทรีย์ 165 ล้านบาท

2.4 โครงการผลิตปุ๋ยหมักเติมอากาศเพื่อการแก้ไขปัญหาปุ๋ยเคมีราคาแพง 170 ล้านบาท

  1. โครงการการพัฒนาธุรกิจบริการดินและปุ๋ยเพื่อชุมชนเพื่อลดการใช้ปุ๋ยเคมี มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมเกษตรกรให้ใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินลดการใช้ปุ๋ยเคมี 395.3292 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการย่อย ดังนี้

3.1โครงการพัฒนาธุรกิจบริการดินและปุ๋ยเพื่อชุมชน 320.3292 ล้านบาท

3.2โครงการส่งเสริมการใช้ปุ๋ยอย่างมีประสิทธิภาพและการใช้ปุ๋ยแบบผสมผสาน 75 ล้านบาท

โครงการที่กล่าวมาเหล่านี้จะสามารถแก้ปัญหาปุ๋ยแพงให้พี่น้องเกษตรกรในระยะสั้นๆได้หรือไม่❓

อ่านเรื่องสมมุติไปแล้วมาถึงเรื่องจริงที่ผ่านมาบ้าง ปีที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าภายในดำเนินโครงการพาณิชย์ลด ราคาปุ๋ยช่วยเกษตรกร ร่วมกับกรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ และผู้ผลิต ผู้นำเข้าปุ๋ยเคมีรวม 19 ราย โดยนำปุ๋ยเคมีจำนวน 84 สูตร ปริมาณรวม 225,211 ตัน (4,504,320 กระสอบ) มาลดราคาจำหน่ายให้แก่กลุ่ม/สถาบันเกษตรกร

messageImage 1650438024404

แต่การลดราคาของปุ๋ยกระสอบละ 20-50 บาท แทบจะไม่เกิดผลอะไรมากนัก เพราะท้ายที่สุด 4.5 ล้านกระสอบเป็นปริมาณที่น้อยมาก ราคาที่ลดลงก็น้อยเกินไป การเข้าถึงโครงการของเกษตรมีน้อยเกินไป

โครงการสมมุติที่จะเทหมดหน้าตักข้างบนนั้นจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ น่าติดตาม วันนี้รัฐบาลที่ง่อนแง่น คะแนนเสียงที่เริ่มหดหาย หากจะแก้เรื่องวิกฤตปุ๋ยแพงแล้วกล้าๆกลัวมีหวังเสียงหาย เกษตรกรเมิน

นาทีนี้ “ขุนพิเรนทร์” ชี้ชัดเลยว่าถ้ารัฐไม่แก้เรื่องปัจจัยการผลิตที่สูงขึ้น รัฐก็ต้องหาตลาดทำให้ราคาผลผลิตของเกษตรกรสูงขึ้น

ระยะเร่งด่วนตัวเลือกมีแค่นั้น ส่วนระยะกลาง ระยะยาว รัฐต้องขยับให้เป็นรูปธรรมมากกว่านี้ ฤดูกาลผลิต วันเกษตรกร เริ่มเข้าใกล้มาถึงแล้ว ถ้ารัฐมัวแต่งหน้าหล่อๆ จ้อบนสื่อแต่งานไม่เดินก็ตัวใครตัวมันหละครับ

กระทรวงเกษตรฯที่ “ขุนพิเรนทร์” ถามทุกครั้งจะช่วยเกษตรกรในภาวะวิกฤตนี้อย่างไร วันนี้น่าจะมีตุ๊กตาออกมาแล้ว ไม่แน่โครงการสมมุติที่ขุนพิเรนทร์ได้ยินมาอาจจะเป็นของจริง และ ถ้าเกษตรของบมาแบบนี้แล้ว ท่านนายกเอายังงัยดีครับ มีทั้งแนวเคมี แนวอินทรีย์ มีทั้งลดแลกแจกแถม มีทั้งสร้างชุมชนให้มั่นคงยั่งยืน

เทหมดหน้าตักก่อนลา ก่อนที่ทุกอย่างจะดำดิ่งกว่านี้
เสียงมาเห็นๆ แต่จะเป็นเสียงสาธุหรือเสียงด่า
ว่ากันไปตามแต่จะคิดกันหละคร๊าบบบบ