รวยสุดคือคนขายพันธุ์ รวยรองลงมาคือคนปลูกกลุ่มแรกๆ ส่วนคนที่เริ่มปลูก…คือ..น่าเป็นห่วง 

อินทผลัม กิโลกรัมละ 500 บาท 400 บาท 350 บาท 250 บาท ล่าสุดมี 100 บาทให้เห็น และที่สำคัญไม่ใช่เป็นลูกร่วง แต่เป็นช่อ

แต่คำเชิญชวนของคนขายพันธุ์คือ ต่อให้ราคา 50 บาท ก็อยู่ได้ ปลูกไม่มีความเสี่ยง ตลาดเยอะ  ดีกว่าทำนา ทำสวน ทำไร่ อย่างอื่น 

ถามใจคนปลูก อยากได้ราคา 500 หรืออยากได้ราคา 50 บาท

หลายคนที่ติดตามเรื่องเล่าข่าวเกษตร หรือ ควายดำทำเกษตร  มานาน จะรู้ เราให้ข้อมูลเพื่อให้เกษตรกรระมัดระวัง ในการลงทุน เพราะสุดท้ายคนที่จะเจ็บคือเกษตรกร 

เกษตรกรทำอะไรก็อยากให้ได้ราคาดีๆทั้งนั้นหละครับ เราก็ทำได้เพียงส่งสัญญาณเตือนกัน 

วันนี้อินทผลัมแตกไลน์ไปหลายอย่างทั้งแปรรูป หรือ ส่งเสริมพันธุ์ใหม่ๆ เราไม่ได้เจออินทผลัมแค่สีเหลืองอย่างบาฮีแล้ว เราเจอสารพัดสี สารพัดสายพันธุ์ 

ยิ่งพันธุ์ใหม่เท่าไหร่ยิ่งราคาวิ่งไปแสนแพง เกษตรกรก็เฮละโลวิ่งตามกันไปเรื่อยๆ ตลาดพันธุ์วิ่งไปตามคนส่งเสริม ในขณะที่เกษตรกรวิ่งตามกว่าจะได้ผลผลิต 3 ปี (ไม่นับรวมแบบขายต้นที่พร้อมให้ผลผลิต)

วันนี้..รายย่อยเตรียมรับแรงกระแทกให้ดี ผลผลิตออกเยอะขายไม่ทันแปรรูปได้หรือเปล่า เกษตรกรส่วนใหญ่ไม่มีห้องเย็นที่ยืดอายุเวลาในการขาย

ไม่แปลกที่บางสวนจะเลือกขายตัดราคา เพื่อระบายของออก 

แม้วันนี้…อินทผลัมไม่ได้แย่มาก แต่อนาคตถ้ายังเป็นแบบนี้…อาการหนักแน่…หาทางหนีทีไล่ไว้บ้างก็ดีครับ