ข่าวด่วน ! พี่น้องเกษตรกรทั้งหลาย! วันนี้ “ขุนพิเรนทร์”ไม่ได้มาใบ้หวย แต่จะพามาดูหน้าค่าตาของ “ภัยเงียบ” ที่แฝงตัวมาในธีมสีพาสเทล เห็นตัวสีชมพูมุ้งมิ้งแบบนี้ อย่าเผลอไปเอ็นดูมันเชียวนา เพราะนี่คือ “เพลี้ยแป้งมันสำปะหลังสีชมพู” (Phenacoccus manihoti) มารหัวใจคนปลูกมันฯ ตัวจริงเสียงจริง!

1. สวยสังหาร ภายนอกดูนุ่มนิ่ม แต่ความจริงคือ “นางมารร้าย”
ดูรูปพรรณสัณฐานมันซะก่อน ตัวเมียนี่ตัวดีเลย รูปร่างไข่ สีชมพูเหมือนขนมหวาน มีแป้งเกาะนิดๆ หน่อยๆ ไม่มีปีกนะจ๊ะ เดินต้วมเตี้ยมแต่ฟาดเรียบ! ส่วนตัวผู้มีปีกคู่เล็กๆ บินว่อน (แต่ตัวการหลักคือตัวเมียเนี่ยแหละ)
ความน่ากลัวระดับ 10 กะโหลก ” เพลี้ยแป้งสีชมพู “นางแม่ลูกดกครับพี่น้อง! ตัวเดียววางไข่ได้ถึง 500 ฟอง! ไข่สีเหลืองอ๋อย หุ้มด้วยใยขาวๆ เหมือนสำลี นึกภาพดูสิครับ แป๊บเดียวลูกหลานเต็มไร่ ไวยิ่งกว่ากามนิตหนุ่ม
2. วงจรชีวิตติดสปีด โตไว ตายยาก
ชีวิตมันรีบครับ จากไข่แค่ 8 วัน ออกมาเป็นตัวอ่อน เดินหากินแค่ 13 วัน (ผ่าน 3 ระยะ) ก็โตเต็มวัยพร้อมแพร่พันธุ์ต่อแล้ว วนลูปนรกแตกแบบนี้ไปเรื่อยๆ ถ้าพี่น้องเผลอกระพริบตา มันสำปะหลังที่รักอาจจะเหลือแต่ก้าน
3. แผนประทุษร้าย สูบเลือดสูบเนื้อ แล้วทิ้ง “ขยะเปียก” ไว้ดูต่างหน้า
ไอ้เพลี้ยสีชมพูนี่มันร้ายลึก มันไม่ได้กัดกินใบแหว่งๆ ให้เราเห็นชัดๆ แต่มันใช้วิธี “ดูดน้ำเลี้ยง” ครับ!
เป้าหมาย ยอดอ่อน ตาใบ จุดยุทธศาสตร์สำคัญที่มันฯ ต้องใช้โต โดนเจาะพรุนหมด!
อาวุธลับ พออิ่มแล้ว มันจะถ่ายของเสียออกมา เรียกว่า “มูลหวาน” (ชื่อเพราะแต่โสโครกสิ้นดี) ไอ้ของเหลวเหนียวๆ นี่แหละ ตัวเรียกแขก!
หายนะระลอกสอง มดชอบของหวาน มดก็จะมาขนเพลี้ยไปแพร่ต่อ ส่วนมูลหวานที่ค้างอยู่บนใบ จะกลายเป็นบ้านของ “ราดำ” พอราดำขึ้น ใบก็สังเคราะห์แสงไม่ได้ มันสำปะหลังเราก็แคระแกร็น หัวลีบ ผลผลิตหายวับไปกับตา!
สรุปจากใจขุนพิเรนทร์
ไอ้เจ้า “เพลี้ยแป้งสีชมพู” เนี่ย คือศัตรูเบอร์หนึ่งที่ทำให้คนปลูกมันฯ ต้องกุมขมับ เจอเมื่อไหร่ต้องรีบจัดการ อย่าปล่อยให้มันสร้างอาณาจักรสีชมพูในไร่เราเด็ดขาด!
หมั่นเดินดูยอดมันฯ บ่อยๆ นะครับพี่น้อง ถ้าเห็นตัวชมพูๆ หรือมีแป้งขาวๆ เกาะยอด รีบหาทางกำจัดด่วน ก่อนที่ “มัน” (สำปะหลัง) จะกลายเป็น “ไม่เหลือมัน” (ให้เก็บเกี่ยว)!
ด้วยความปรารถนาดี (และเป็นห่วงหัวมันของท่าน)
ลงชื่อ: ขุนพิเรนทร์
ข้อมูลฉบับทางการ : กรมส่งเสริมการเกษตร





