“กะหล่ำปลี “เป็นพืชผักชนิดหนึ่ง ซึ่งแต่เดิมเป็นพืชที่ปลูกในเขตเมดิเดอร์เรเนียนแถบยุโรป ต่อมาได้แพร่กระจายเข้ามาในประเทศไทย ในสมัยก่อนกะหล่ำปลีปลูกได้ดีเฉพาะฤดูหนาวทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ต่อมาเริ่มเป็นที่นิยมบริโภคกันทั่วไป จึงได้มีการพยายามปลูกกะหล่ำปลีนอกฤดูกันมากขึ้น และได้หาพันธุ์ทนร้อนเหมาะสมกับสภาพอากาศของประเทศไทย จึงทำให้ในปัจจุบันสามารถปลูกกะหล่ำปลีได้ทุกฤดู กะหล่ำปลีเป็นผักอายุประมาณ2 ปี แต่นิยมปลูกเป็นผักอายุปีเดียวคือ อายุตั้งแต่ย้ายปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวประมาณ 50-120 วัน ปลูกได้ผลดีในช่วงเดือนตุลาคม – มกราคม ถ้าปลูกนอกเหนือจากนี้จะต้องเลือกพันธุ์ที่เหมาะสม
การปลูกและการปฏิบัติดูแลรักษาระยะต่างๆของการเจริญเติบโต
การเตรียมกล้า เพาะกล้าแบบประณีตในถาดหลุมหรือเพาะในแปลงก็ได้ อายุกล้าไม่ควรเกิน 25 วัน หากเพาะในแปลง ควรมีตาข่ายกันฝนกระแทก และควรใช้เชื้อราไตรโครเดอร์มา คลุกวัสดุเพาะเพื่อป้องกันโรคโคนเน่าหากไม่ได้เพาะในวัสดุปลูกสำเร็จรูป และฉีดพ่นเซฟวิน ป้องกันมด แมลง ทำลายเมล็ดพันธุ์
การเตรียมดิน ขุดดินตากแดด อย่างน้อย 14 วัน โรยปูนขาวอัตรา 0 – 100 กรัม /ตร. ม.
การปลูก ขึ้นแปลงกว้าง 1–1.5 เมตร สำหรับฤดูฝนให้แปลงสูงกว่าปกติ 30 – 50 ซม. เพื่อการระบายน้ำ รองพื้นด้วยปุ๋ยเคมี 12–24–12 อัตรา 30 กรัม/ตร.ม. ใส่ปุ๋ยหมักและปุ๋ยคอก อัตรา 2 – 4 กิโลกรัม/ตร.ม. ระยะปลูก ฤดูฝนและฤดูหนาว 40 x 40 ซม. ฤดูแล้ง 40 x 30 ซม.
ข้อควรระวัง
- เป็นพืชที่มีความต้องการปุ๋ยปริมาณมาก โดยเฉพาะปุ๋ยหมักและปุ๋ยคอก
- ควรรองพื้นก่อนปลูกด้วยโบแรกซ์
การให้น้ำ ใช้สปิงเกอร์
การให้ปุ๋ย ประมาณ 5 – 7 วัน ควรมีการปลูกซ่อมกล้าที่ตาย เมื่อย้ายปลูกได้ 7–10 วัน ใส่ปุ๋ย 15–15–15 และ 21–0–0 อย่างละ 20 – 25 กรัม/ตร.ม. และใส่ปุ๋ยครั้งที่ 2 เมื่ออายุได้ 25 – 30 วัน และใส่ปุ๋ยครั้งที่ 3 เมื่อเริ่มเข้าหัว มีอายุ 45 – 50 วัน พร้อมกำจัดวัชพืช แล้วพ่นสารเคมีป้องกันศัตรูพืช ถ้ามีพบการเข้าทำลายของศัตรูพืช
ข้อควรระวัง
- ควรหลีกเลียงพื้นที่ฝนตกชุก และมีน้ำขัง แสงแดดน้อย
- เป็นพืชที่ต้องการปุ๋ยในปริมาณที่มาก หากปุ๋ยไม่เพียงพอจะทำให้อายุการเติบโตยาวนานมากขึ้น
การเก็บเกี่ยวและการจัดการหลังการเก็บเกี่ยว
ช่วงเก็บเกี่ยว เมื่ออายุ 60 – 70 วัน หลังย้ายกล้าปลูก ห่อหัวแน่นพอดี เก็บเกี่ยวเมื่ออายุและขนาดเหมาะสม ควรมีใบห่อหุ้มไม่เกิน 3 ใบ คัดเลือกหัวที่มีตำหนิทิ้ง ทาด้วยปูนแดงที่รอยตัดและผึ่งให้แห้ง บรรจุในตะกร้าพลาสติกโดยมีกระดาษกรุรองทั้งตระกร้า
ข้อกำหนดเรื่องคุณภาพ คุณภาพขั้นต่ำ เป็นกะหล่ำปลีทั้งหัว มีรูปร่างและสีตรงตามพันธุ์ สด สะอาด ไม่มีตำหนิจากโรคหรือแมลง ไม่แทงช่อดอก ตัดแต่งให้เหลือใบนอก 2 – 3 ใบ ปลอดภัยจากสารเคมี
ขณะนี้เกษตรกรบางพื้นที่ได้หันมาปลูกพืชใช้น้ำน้อย พืชอายุสั้น โดยหันมาปลูกกะหล่ำปลีกันเป็นจำนวนมากแทนทำข้าวนาปรัง เพราะปลูกแล้วได้ผลผลิตดี เป็นที่ต้องการของตลาด