ปลานิล ปลาหมอคางดำ และปลาหมอเทศ มีลักษณะบางอย่างคล้ายคลึงกัน แต่ก็มีความแตกต่างที่สำคัญดังนี้
1. ปลานิล (Nile Tilapia – Oreochromis niloticus) ลักษณะเด่นมีรูปร่างคล้ายปลาหมอเทศ แต่มีลายสีดำและจุดสีขาวสลับกันบริเวณครีบหลัง ครีบก้น และลำตัว ลำตัวมีสีเขียวปนน้ำตาล มีลายดำพาดขวางตามลำตัว แผ่นปิดเหงือกสีเหลืองปนแดงชมพู (ต่างจากปลาหมอเทศที่มีสีขาวปนฟ้าอมเขียว) ครีบหางโค้งมนเล็กน้อย และมีลวดลายมีจุดสีขาวและเส้นสีดำตัดขวาง เป็นปลาที่นิยมเลี้ยงและบริโภคมากที่สุดในกลุ่มนี้
2. ปลาหมอคางดำ (Blackchin Tilapia – Sarotherodon melanotheron) ลักษณะเด่นมีลักษณะคล้ายปลาหมอเทศหรือปลาหมอสีทั่วไป แต่มีจุดเด่นคือ บริเวณใต้คางมีสีดำ เมื่อโตเต็มวัย สีลำตัวซีด อาจมีเฉดสีฟ้าอ่อน ส้ม หรือเหลืองทอง มักมีสีเข้มที่ขอบหลังเหงือกและปลายครีบอ่อนของครีบหลัง ลำตัวมักมีลายเส้น จุด หรือด่างที่ไม่สม่ำเสมอ ปากเล็ก มีฟันขนาดเล็กหลายร้อยซี่ เรียงกัน 3-6 แถว เป็นปลาเอเลี่ยนสปีชีส์ ที่เข้ามาแพร่ระบาดในแหล่งน้ำธรรมชาติของไทย มีความทนทาน ปรับตัวเก่ง ขยายพันธุ์เร็ว และดุร้าย สามารถแย่งอาหารและที่อยู่ของปลาพื้นเมืองได้ ทำให้ระบบนิเวศเสียหาย
3. ปลาหมอเทศ (Mozambique Tilapia – Oreochromis mossambicus) ลักษณะเด่น รูปร่างคล้ายปลานิล แต่โดยรวมแล้วมีขนาดเล็กกว่า มีลำตัวแบนข้าง หัวสั้น ปากกว้าง มีฟันซี่เล็กละเอียด บริเวณแก้มและแผ่นปิดเหงือกมีสีขาวด้านล่าง ปนสีฟ้าอมเขียว ในตัวผู้มักมีแต้มขาว ครีบหางโค้งมน ขอบครีบหางมีสีแดงเสมอ (ต่างจากปลานิลที่มีลวดลายและเส้นสีดำตัดขวาง) เป็นปลาที่ถูกนำเข้าสู่ประเทศไทยก่อนปลานิล แต่ความนิยมในการบริโภคไม่เท่าปลานิล





