น้ำบูดู เป็นผลิตภัณฑ์พื้นเมืองที่ได้รับความนิยมในภาคใต้ได้จากการหมักปลากับเกลือ โดยอาศัยเอนไซม์และจุลินทรีย์จากปลาที่มีอยู่แล้วตามธรรมชาติ หมักทิ้งไว้จนเนื้อปลาเปื่อยหลุดออกจากก้างมีลักษณะคล้ายนํ้าปลา มีนํ้าข้นปานกลาง นำมารับประทานเป็นเครื่องปรุงรส

วัตถุดิบ
นิยมทําจากปลาทะเลที่มีไขมันสูง เช่น ปลาไส้ตัน ปลากะตัก ปลาหลังเขียว ปลาทูแขก
ส่วนผสม
ปลา 3 กิโลกรัม
เกลือเม็ด 1 กิโลกรัม

วิธีทํา
- นําปลามาล้างให้สะอาด
- คลุกเคล้าปลากับเกลือเม็ด ใช้อัตราส่วนปลา:เกลือ เท่ากับ 3:1 โดยน้ำหนักคลุกเคล้าให้เข้ากันดีโดยใช้ไม้พาย
- นําไปใส่ในภาชนะปิด เช่น ไห โอ่งดิน หรือบ่อซีเมนต์ อัดให้แน่น แล้วโรยเกลือเม็ดปิดส่วนบน แล้วใช้วัสดุ เช่น ไม้ไผ่สานกดทับกันไม่ให้ปลาลอย ปิดปากภาชนะให้แน่น
- หมักทิ้งไว้นาน 8-12 เดือน โดยวางให้ถูกแสงแดดบ้าง หมักจนเนื้อปลาเปื่อยและยุ่ยเละ
- เมื่อหมักครบกําหนด จะมีน้ำบูดู และเนื้อบูดูปะปนกัน ทําการแยกน้ำบูดูใสออกจากน้ำบูดูส่วนที่ขุ่น น้ำบูดูส่วนใสเรียกว่า น้ำบูดูใส ส่วนน้ำบูดูที่มีเนื้อบูดูปะปนอยู่ นําไปผลิตเป็นน้ำบูดูข้น
- นําไปบรรจุขวดหรือแกลลอน ปิดฝาให้แน่น
วิธีการบรรจุและการเก็บรักษา
บรรจุไว้ในภาชนะที่ปิดมิดชิด เช่น ขวดหรือแกลลอน เก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องได้เป็นเวลานาน
วิธีรับประทาน
ใช้เป็นเครื่องปรุงรส เครื่องจิ้มกับผักสด โดยผสมเครื่องปรุง เช่น น้ำมะนาว หัวหอม ตะไคร้ใบมะกรูด น้าตาลปี๊บ อาจใส่เนื้อปลาย่าง หรือนําไปทําเป็นน้ำปรุงรสข้าวยํา โดยนําน้ำบูดูมาเคี่ยว ใส่น้ำตาลปี๊บ ปลาป่น ตะไคร้ แล้วนําไปผสมกับข้าวสุก ถั่วงอก ตะไคร้ หอมแดงซอย ใบมะกรูดหั่นฝอย มะพร้าวคั่ว ส้มโอ กุ้งแห้งป่น ถั่วฝักยาวหั่นฝอย เมล็ดกระถิน
ที่มาข้อมูลและภาพ : กองวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมสัตว์น้ำ




