นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในนามหน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช และโฆษกหน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช ร่วมกับกรมปศุสัตว์และกรมประมง นำหลักฐานการสำแดงเท็จคดีหมูเถื่อนที่หน่วยเฉพาะกิจตรวจพบ ไปมอบให้พลตำรวจตรี วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ให้ตรวจสอบพยานหลักฐาน และดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง
นายธนดล เปิดเผยว่า หลังจากกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ดำเนินคดีกล่าวหาบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าหมูเถื่อนจำนวน 11 บริษัท หน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช ซึ่งเป็นทีมบูรณาการหลายหน่วยงานที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดตั้งขึ้นให้ปราบปรามสินค้านำเข้าผิดกฎหมาย ก็ได้นำรายชื่อทั้ง 11 บริษัทมาตรวจสอบ เปรียบข้อมูลจากเอกสารประกอบการขออนุญาตนำเข้าสัตว์น้ำ เอกสารรับรองสุขอนามัยสัตว์กับฐานข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ จนพบข้อมูลที่ไม่ตรงตามข้อเท็จจริง ทำให้เชื่อได้ว่าเป็นเอกสารที่มีการปลอมแปลงเพื่อหลบเลี่ยงเจ้าหน้าที่ในการขออนุญาตนำเข้า โดยสำแดงเท็จการนำเข้าเนื้อหมูเป็นปลาโดยเอกสารที่นำมาในวันนี้มีบริษัทที่เกี่ยวข้อง 3 บริษัท ซึ่งอยู่ในกลุ่ม 11 บริษัทที่ดีเอสไอกล่าวหา มีเอกสารที่ถูกปลอมแปลงสำแดงเท็จกว่า 20 ฉบับ โดยเป็นการนำเข้าระหว่างเดือนมกราคม 2564 ถึง สิงหาคม 2566
ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดจึงนำเอกสารหลักฐานมายื่นต่อตำรวจสอบสวนกลาง เพราะดีเอสไอรับคดีนี้เป็นคดีพิเศษแล้ว นายธนดล บอกว่า ดีเอสไอมีหน้าที่ในการตรวจสอบเอกสิทธิ์ของบริษัทที่ถูกกล่าวหาที่จะต้องดำเนินการไป แต่ในส่วนเอกสารหลักฐานที่พบเป็นเอกสารเท็จ จึงนำมาให้ตำรวจ และขึ้นอยู่กับดุลพินิจของตำรวจว่าจะส่งต่อเอกสารหลักฐานให้ดีเอสไอต่อหรือไม่