รมว.ยุติธรรมเผยหารือ ปศุสัตว์-อุตสาหกรรม-ท่องเที่ยว-เอกชน วางแนวทางร่างกม.ส่งเสริมปศุสัตว์ หลังนายกฯ เห็นชอบหลักการเบื้องต้นเตรียมชงเข้า ครม.

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เผยหารือ ปศุสัตว์-อุตสาหกรรม-ท่องเที่ยว-เอกชน วางแนวทางร่างกม.ส่งเสริมปศุสัตว์ หลังนายกฯ เห็นชอบหลักการเบื้องต้นเตรียมชงเข้าครม. “สมศักดิ์” ชี้ช่วยสร้างเศรษฐกิจขนาดใหญ่มูลค่า 192,000 ล้านบาทต่อปียกระดับเกษตรกรไทย

IMG 63498 20230107115918000000
สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดทำร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับการส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมปศุสัตว์ ว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบในหลักการเบื้องต้นแล้ว อยู่ระหว่างการเสนอเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี โดยทางกระทรวงยุติธรรมได้ศึกษาข้อมูลเชิงลึก เช่น กฎหมายของประเทศออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกาและอังกฤษ และล่าสุดเราได้เชิญหน่วยงานต่างๆ มาช่วยกันกำหนดแนวทางและเสนอความเห็น คือ กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และภาคเอกชน ซึ่งหากมีกฎหมายนี้จะช่วยให้ประชาชน ได้สร้างอาชีพ มีรายได้ จากสัตว์พันธุ์พื้นเมือง เช่น วัวชน ไก่ชน และม้า ผ่านกิจกรรมในเชิงวัฒนธรรม สันทนาการ การท่องเที่ยวและกีฬา สร้างเศรษฐกิจขนาดใหญ่ให้กับประเทศ

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ตนขอยกตัวอย่าง วัวชนราคาขายตัวละประมาณ 50,000 บาท แต่หากเป็นพันธุ์ดี ลักษณะสวยงามราคาก็จะเพิ่มอีกหลายเท่า ซึ่งปัจจุบันมีคนเลี้ยงอยู่ประมาณ 100,000 ตัวทั่วประเทศ ซึ่งก็จะสร้างรายได้อย่างอื่นอีก เช่น หญ้าที่วัว 1 ตัวกินประมาณ 30 กิโลกรัมต่อวัน ราคากิโลกรัมละ 3-4 บาท อาหารเสริมกิโลกรัมละ 10 บาทกินตัวละ 2 กิโลกรัม ยารักษาโรคเฉลี่ยตัวละ 1,000 บาทต่อปี ส่วนขี้วัวก็สามารถนำไปขายทำเป็นปุ๋ยได้ แค่ภาคการเกษตรนี้มีเงินหมุนเวียนถึง 10,000 ล้านบาทต่อปี ส่วนภาคการกีฬา ก็มีเรื่องของการขายบัตรเข้าชม การขายอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ และการเช่าคอกวัวสำหรับแข่ง รวมๆแล้วการแข่ง 1 ครั้งมีมูลค่าถึง 30 ล้านบาท

“หากเรามีกฎหมายนี้จะมีรายได้ให้กับประเทศอย่างมหาศาล ทั้งจากการเลี้ยงเพื่อขาย การขายน้ำเชื้อเพื่อขยายพันธุ์ การสร้างเป็นแหล่งท่องเที่ยว การขายอาหารสัตว์และอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งถ้าคิดง่ายๆว่าประเทศไทยมี 80,000 หมู่บ้าน เฉลี่ยคนที่เลี้ยงสัตว์พื้นเมืองมีหมู่บ้านละ 20 คน แต่ละคนมีรายได้เฉลี่ย 10,000 บาทต่อเดือน จะทำให้มีเงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจเดือนละ 16,000 ล้านบาท หรือปีละ 192,000 ล้านบาท ถือเป็นการสร้างเศรษฐกิจใหญ่ให้กับประเทศ หากเรามีกฎหมายรองรับ ทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามระบบ ประเทศและประชาชนก็จะมีรายได้จากส่วนต่างๆ” นายสมศักดิ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การชนวัว หรือ ชนโค ถือเป็นกีฬาพื้นบ้านทางภาคใต้ แรกเริ่มเป็นที่นิยมมาจากการเลี้ยงวัวเพื่อบริโภคของชาวมุสลิม จนมาถึงปัจจุบันมีการนิยมเลี้ยงเพื่อการแข่งขันจนเป็นวิถีชีวิตที่ผูกพันระหว่างผู้เลี้ยงวัวกับวัวชนขึ้นโดยวัวที่จะเข้าแข่งนั้นจะต้องเป็นวัวที่บึกบึนกำยำ ทั้งหัว เขา ขา ตัว จะต้องเป็นไปตามตำราพร้อมปะทะ ซึ่งวัวจะได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีเพื่อให้แข็งแรงและมีการเตรียมความพร้อมก่อนลงสู่สนามหลายขั้นตอน เช่น การฝึกซ้อม พาวัวเดินกว่าหลายกิโลเมตรตอนเช้า หรือการย้ายเข้ามาอยู่ใกล้สถานที่แข่งเพื่อปรับตัว อีกทั้งยังช่วยเพิ่มรายได้ให้ชุมชนบริเวณสนามแข่งจากการซื้อขายหญ้าสด และการเช่าที่พักวัวในบริเวณนั้นด้วย 
   

การแข่งขันจะเริ่มจากการปล่อยวัวของทั้งสองฝ่ายลงสนาม ให้เข้าปะทะกันโดยใช้เขาเป็นอาวุธในการต่อสู้ ตัวไหนที่สู้ไม่ถอยจึงจะถือเป็นฝ่ายชนะ โดยในการชนส่วนมากจะมีการพนันขันต่อเข้ามาเพื่อเพิ่มความสนุกให้มากขึ้น ส่วนพื้นที่ที่จะใช้เป็นลานชนวัวจะต้องเป็นลานดินกว้าง แล้วสร้างรั้วล้อมเป็นคอก หรือทำคันดินล้อม เพื่อระบุขอบเขตและกันอันตรายจากผู้คน