กรมศุลกากรหอบหลักฐานร้องตำรวจสอบสวนกลาง ขยายผลเอาผิดขบวนการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนหลังสำรวจพบเรือสินค้าบรรทุกหมูแช่แข็ง 161 ตู้ที่ไม่มีใบรับรองการขนสินค้า และไม่ได้เสียอากร
นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ รองอธิบดีกรมศุลกากร รักษาการที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.สําเริง อําพรรทอง รอง ผบก.ปคบ. เพื่อแจ้งเอาผิดขบวนการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูเถื่อน ในความผิดฐาน “นำเข้าซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์โดยไม่ใด้รับอนุญาต” โดยนำหลักฐานต่างๆ มามอบให้พนักงานสอบสวนประกอบการพิจารณา
นายพันธ์ทอง กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูแช่แข็งเข้ามาในราซอาณาจักรไทย โดยไม่ได้รับอนุญาตจำนวนมาก เฉพาะในรอบ 1 ปี สามารถตรวจยึดเนื้อหมูเถื่อนได้ 4.8 ล้านกิโลกรัม มูลค่ากว่า200 ล้านบาท ซึ่งจากปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรเกิดความกังวลใจ เพราะกรณีดังกล่าวอาจทำให้กลไกตลาดเกิดความเสียหาย เพราะเนื้อหมูที่ลักลอบนำเข้ามานั้น มักไม่มีหลักแหล่งที่ไปที่มา
ประกอบกับมีการระบาดของโรคระบาดอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (AFS) ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุตสาหกรรมการผลิตสุกรของไทย ในด้านความมั่นคงทางด้านอาหาร และความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับสุขอนามัยของผู้บริโภคภายในประเทศ
นายพันธ์ทอง กล่าวต่อว่า ด้วยเหตุนี้ทางกรมศุลกากร จึงทำการสำรวจของค้างบัญชีเรือที่อยู่ในอารักขาของศุลกากรเกินกำหนดเวลา 30 วัน ซึ่งจากการสำรวจพบเรือสินค้าที่ไม่มีใบรับรองการขนสินค้า และ ไม่ได้เสียอากร รวมถึงไม่มีผู้มาแสดงความเป็นเจ้าของจำนวนมาก จึงทำการเปิดสำรวจ พบเป็นสินค้าจำพวกเนื้อหมูแช่แข็ง จำนวน 161 ตู้
อีกทั้งจากการตรวจสอบยังพบว่า สินค้าดังกล่าวไม่ได้รับอนุญาตจากกรมปศุสัตว์ ในการนำเข้ามา ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืน กฎหมายมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ ศ. 2558 เพื่อเป็นการปกป้องอุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรภายในประเทศ และ ป้องกันโรคระบาคสู่ผู้บริโภค กรมศุลกากร จึงอยากให้ตำรวจสอบสวนกลาง ขยายผลดำเนินคดีเอาผิดบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งในฐานะนิติบุคคล และในฐานะส่วนตัว
พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ กล่าวว่า เบื้องต้นทางตำรวจสอบสวนกลาง จะรับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณา โดยจะเร่งดำเนินการสืบสวนขยายผลเพื่อติดตามตัวผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูเถื่อนเหล่านี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป