อธิบดีกรมวิชาการเกษตรแนะชาวสวนช่วยกันผลิต”ทุเรียนคุณภาพ”ส่งออกตลาดต่างประเทศ 

อธีบดีกรมวิชาการเกษตร ระบุยังไม่ได้รับรายงานว่า เวียดนามได้สิทธิ์ส่งผลทุเรียนสดเข้าจีน แต่ให้กำลังใจชาวสวนช่วยกันผลิตทุเรียนคุณภาพแข่งขันตลาดต่างประเทศ

15.00 น. นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยระหว่างลงพื้นที่ ชี้แจงล้งลำไยในอ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี กรณีมีข่าวว่า ทางการจีนอนุญาตให้เวียดนาม ส่งผลทุเรียนสด(เป็นลูก)เข้าจีนได้หลังก่อนหน้านี้ จีนให้สิทธิ์ไทยประเทศเดียวในการส่งผลทุเรียนสดเข้าไปขาย ส่วนประเทศอื่นๆ อนุญาตเฉพาะแปรรูปเข้ามาจำหน่ายในจีนเท่านั้น

F5046144 ADCA 4BFB 9618 7A0281066DDD

โดยอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ระบุว่า ยังไม่ทราบ และยังไม่ได้รับรายงานเรื่องนี้ แต่ก็ไม่กังวลหากประเทศใดได้รับอนุญาตจากจีน ในการนำผลทุเรียนสดเข้าไปจำหน่าย เพราะไทย ยังเน้นเรื่องการผลิตทุเรียนคุณภาพส่งออกไปจำหน่าย จะเห็นได้จากปีที่ผ่านมา ความต้องการทุเรียนในจีนจากไทยสูงมาก มีเท่าไรก็ไม่พอขาย ทั้งหมดต้องยกความดีให้กับทางผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่กวดขันและเอาใจใส่เรื่องคุณภาพการส่งออก ทำให้ทุเรียนในปีนี้มีคุณภาพ และผู้บริโภคปลายทางออกปากชมว่า ทุเรียนจากประเทศไทยอร่อย

ที่สำคัญ ต้องขอบคุณชาวสวน ไปจนถึงผู้ประกอบการ ที่ทำตามกติกาของภาครัฐ เพราะทุกฝ่ายก็ต้องการให้ตั้งแต่ต้นไปจนถึงปลายดำเนินธุรกิจไปได้ ภายใต้คุณภาพที่ออกจากประเทศไทย

92548BD7 DB18 48EC B2B7 DDE07252CB82

“เราไม่กังวลว่า ใครจะส่งทุเรียนได้ แต่หากเป็นทุเรียนจากประเทศไทย เราจะทำทุเรียนคุณภาพส่งออกแข่งขันกับตลาดต่างประเทศ “ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว

สำหรับ การได้รับสิทธิ์ส่งออกทุเรียนจากเวียดนามเข้าจีน เพิ่งจะมีการเปิดเผยจากผู้ประกอบการส่งออกทุเรียนในภาคตะวันออกวันนี้(12/7/65) ว่า เวียดนามได้รับสิทธิ์ส่งออกทุเรียนเป็นลูกเหมือนกับไทยเข้าไปจีน ตั้งแต่วันที่ 11 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป และนับเป็นประเทศที่ 2 ที่ได้รับสิทธิ์ ทำให้ผู้ประกอบการส่งออกทุเรียนในไทย เริ่มกังวลว่า ส่วนแบ่งทางการตลาดจะหายไปมาก จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาครัฐ เตรียมหาทางแก้ปัญหาแต่เนิ่นๆ เพราะเกรงว่าหากยังปล่อยไว้ เมื่อถึงฤดูกาลหน้า (2566) ทุเรียนไทยอาจจะกระทบหนัก เพราะข้อดีของทุเรียนเวียดนาม คือ ราคาถูกกว่าไทย (เวียดนาม 80-90 บาท) (ไทย 130+) แต่รสชาติยังอร่อยไม่เท่ากับของไทย