อนุทิน เผยคืบหน้า “ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง” ฉบับใหม่ เตรียมนำเสนอเข้าที่ประชุมรัฐสภา

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยความคืบหน้า พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ฉบับใหม่ ขณะนี้ขั้นตอนการแปรญัตติมีการรับฟังข้อมูลจากทุกภาคส่วน หากเสร็จสิ้น เตรียมนำเสนอต่อที่ประชุมรัฐสภาต่อไปกัญชาไม่สามารถนำไปประกอบอาหารได้ มีประกาศกรมอนามัยควบคุม ยืนยันเจตนารมณ์ใช้เพื่อการแพทย์และสุขภาพเท่านั้น

วันที่ 5 ส.ค. 65 ที่ จ.ภูเก็ต นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความคืบหน้า พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ฉบับใหม่ ว่า ขณะนี้เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของการแปรญัตติกฎหมายซึ่งคณะกรรมการพิจารณาประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิทุกภาคส่วน ผู้แทนราษฎร นักวิชาการ องค์กรอิสระและผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยมีการรับฟังข้อมูลจากทุกภาคส่วน หากเสร็จสิ้นจะนำเสนอต่อที่ประชุมรัฐสภาต่อไป โดยจะต้องผ่านทั้งวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร คาดว่ากฎหมายฉบับใหม่นี้จะมีความครอบคลุมและนำมาใช้ปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ส่วนการปรับปรุงประกาศเพิ่มเติมเรื่องช่อดอกกัญชา กรมอนามัยได้ออกประกาศการห้ามใช้ช่อดอกในการประกอบอาหารมาก่อนที่กัญชาจะถูกปลดออกจากการเป็นยาเสพติดแล้ว ดังนั้น การนำช่อดอกมาประกอบเป็นอาหารและจำหน่าย รวมถึงการสูบ เสพในที่สาธารณะไม่สามารถทำได้ ซึ่งผู้ที่กระทำจะมีความเสี่ยงต่อการถูกดำเนินคดี มีความผิดทางกฎหมายโทษทั้งจำและปรับ ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขยังยืนยันเจตนารมณ์ของนโยบายกัญชาทางการแพทย์ว่าใช้เพื่อสุขภาพเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติดตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มีผลบังคับใช้เมื่อ 9 มิถุนายนที่ผ่านมาและเนื่องจาก พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. ยังไม่ผ่านการพิจารณาของสภา และกระทรวงสาธารณสุขออกมาตรการ 2 มาตรการ คือ

(1) การออกคำแนะนำของคณะกรรมการสาธารณสุข เรื่อง แนวทางควบคุมเหตุรำคาญจากการกระทำให้เกิดกลิ่นหรือควันกัญชา กัญชง หรือพืชอื่นใด มาตรการนี้กระทำได้แค่เพียงระงับการสูบนั้น ๆ ไม่ให้ส่งกลิ่นหรือควันรำคาญผู้อื่นเท่านั้น แต่จะไม่สามารถห้ามไม่ให้เด็กและเยาวชนสูบกัญชาได้เลย

(2) การประชาสัมพันธ์ให้ผู้ปลูกกัญชาในครัวเรือนมา“จดแจ้ง” ผ่านแอปพลิเคชัน “ปลูกกัญ”

แต่นโยบายนี้ทำได้เพียงการ “ขอความร่วมมือ” เพราะจะ “บังคับให้จดแจ้ง” ได้ต่อเมื่อพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ. … ผ่านการตราเป็นกฎหมายแล้วเท่านั้น

ดังนั้นขณะนี้หากผู้กรอกข้อมูลให้ข้อมูลเท็จ หรือให้ข้อมูลแล้วไม่ปฏิบัติตามนั้น เช่น จดแจ้งว่าปลูกเพื่อใช้รักษาโรคตนเอง แต่จริง ๆ นำช่อดอกไปสูบเพื่อความบันเทิง หรือนำไปใส่อาหารขายก็ไม่สามารถเอาผิดได้

จึงเรียกได้ว่าเกิด “ภาวะสุญญากาศ” คือ ไม่มีมาตรการควบคุมการใช้กัญชาในทางที่ผิดที่เพียงพอใด ๆ และต่อไปไทยอาจเป็น ประเทศที่กัญชาเสรีที่สุดในโลก ก็เป็นได้