บริษัท อีสต์ เอเชีย ชูการ์ กรุ๊ป จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมจีน-ไทย(ฉงจั่ว) เมืองฉงจั่ว เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีน จัดเป็นกิจการร่วมค้าจากความร่วมมือระหว่างกลุ่มมิตรผลของไทยและกลุ่มโรงงานน้ำตาลในเมืองฉงจั่ว ก่อตั้งเมื่อปี 1993
ชูศักดิ์ ว่องกุศลกิจ ซีอีโอของบริษัทฯ เผยว่าปัจจุบันมีกำลังการผลิตน้ำตาลอยู่ที่ราว 1 ล้านตันต่อปี คิดเป็นราวร้อยละ 10 ของน้ำตาลที่ผลิตภายในประเทศ โดยมีบริษัทในเครือ 12 แห่ง ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับน้ำตาล พลังงานชีวมวล ปุ๋ย ยีสต์ อาหารสัตว์ และอื่นๆ
โรงงานน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ของบริษัทฯ ครอบคลุมพื้นที่ราว 125 ไร่ มีการดำเนินงานอัตโนมัติระดับสูง ผลิตน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ได้ 1,200 ตันต่อวัน แต่ละกะมีพนักงานประจำอยู่ 20 กว่าคน รวมทีมช่างเทคนิคตรวจสอบการทำงานของอุปกรณ์จากห้องควบคุมกลาง ซึ่งลดการใช้แรงงานลงกว่าร้อยละ 70 เมื่อเทียบกับโรงงานแบบเก่า
การดำเนินงานของบริษัทฯ ช่วยเหล่าเกษตรกรเพาะปลูกอ้อยในท้องถิ่นก้าวสู่ความมั่งคั่ง เช่น หวงหย่งจวิน เกษตรกรคนหนึ่งที่ปลูกอ้อยมานานกว่า 20 ปี มีพื้นที่เพาะปลูกราว 20.83 ไร่ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากบริษัทฯ สร้างรายได้กว่า 1 แสนหยวน (ราว 5 แสนบาท) ในปีก่อน ทำให้เขาสามารถซื้อบ้าน รถยนต์และทำธุรกิจส่วนตัว
อนึ่ง เมืองฉงจั่วมีฉายาว่า “นครแห่งน้ำตาล” และเกษตรกรปลูกอ้อยมากกว่า 350,000 คน ซึ่งลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับบริษัทฯ อยู่ราว 1.1 แสนคน โดยบริษัทฯ จ่ายเงินค่าอ้อยตรงเวลาและครบถ้วนรวมกว่า 6.5 หมื่นล้านหยวน (ราว 3.25 แสนล้านบาท) รวมถึงจ่ายภาษีราว 1 หมื่นล้านหยวน (ราว 5 หมื่นล้านบาท) ตลอด 29 ปีที่ผ่านมา
ชูศักดิ์ เสริมว่าบริษัทฯ ยินดีเป็นสะพานเชื่อมโยงความร่วมมือไทย-จีน และใช้ประโยชน์จากความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค(RCEP) เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้า รวมถึงการพัฒนาตามแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง(BRI) กับกลุ่มประเทศอาเซียน
สำหรับนิคมอุตสาหกรรมจีน-ไทย (ฉงจั่ว) ก่อตั้งปี 2016 มีทำเลโดดเด่นดังคำเปรียบ “เปิดประตูเป็นเวียดนาม เดินสองก้าวถึงอาเซียน” และความร่วมมือกับนิคมอุตสาหกรรมแห่งอื่นๆ เช่น นิคมอุตสาหกรรมระยอง ไทย-จีน เขตเศรษฐกิจพิเศษมุกดาหาร และนิคมอุตสาหกรรมสยามโอเรียนเต็ล
ข้อมูลสถิติระบุว่ามูลค่าผลผลิตของอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีรายได้ต่อปีมากกว่า 20 ล้านหยวน (ราว100 ล้านบาท) ช่วงสามไตรมาสแรกของปีนี้ สะสมอยู่ที่ 1.07 หมื่นล้านหยวน (ราว 5.38 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.7 เมื่อเทียบปีต่อปี
ขอบคุณข้อมูล/ภาพ จาก : สำนักข่าวซินหัว (XinhuaThai)