สศก. ชี้ ราคาปาล์มน้ำมันในตลาดโลกปี 66 มีแนวโน้มปรับตัวลดลงเนื่องจากปริมาณผลผลิตทั่วโลกเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาปาล์มน้ำมันของไทยปรับลดตามไปด้วย

สำนักวิจัยเศรษฐกิจการเกษตร สศก. เผย ราคาปาล์มน้ำมันปาล์มในตลาดโลกปี 66 มีแนวโน้มปรับตัวลดลงเนื่องจากปริมาณผลผลิตทั่วโลกเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาของไทยปรับลดตามไปด้วยแถมการส่งออกมีแนวโน้มลดลงทำให้สต็อกน้ำมันปาล์มในประเทศเพิ่มสูงคาดปี 66 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 6.12 บาท ลดลงจากปี 65 ซึ่งอยู่ที่ 7.70 บาทต่อกิโลกรัม

ปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันปาล์มของตลาดโลกมีแนวโน้มลดลงในปี 2566 เนื่องจากในปี 2564/65 มีผลผลิตน้ำมันปาล์ม 75.93 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 73.08 ล้านต้น ในปี 2563/2564 ร้อยละ 3.90 แหล่งผลิตปาล์มน้ำมันที่สำคัญของโลกได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย มีสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยฝนตกอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับปัญหาการขาดแคลนแรงงานในการเก็บเกี่ยวผลผลิตในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ของมาเลเซียเริ่มคลี่คลาย

%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B9%8C%E0%B8%A1 1
ราคาปาล์มน้ำมัน ปี 66 มีแนวโน้มลดลง

ทั้งนี้อินโดนีเซียผลิตน้ำมันปาล์มได้ 45.30 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 43.50 ล้านตัน ในปี 2563/64 ร้อยละ 4.14 มาเลเซียผลิตน้ำมันปาล์มได้ 18.15 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 17.85 ล้านตันในปี 2563/64 ร้อยละ 1.68 ทั้ง 2 ประเทศมีสัดส่วนการผลิตร้อยละ 83.56 ของผลผลิตน้ำมันปาล์มโลก สำหรับไทยผลิตได้เป็นอันดับที่ 3 ของโลก สามารถผลิตได้ 3.15 ล้านตัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 4.15 ของผลผลิตน้ำมันปาล์มโลก

นอกจากที่ราคาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มของไทยจะขึ้นอยู่กับสถานกรณ์ราคาน้ำมันปาล์มในตลาดโลกแล้ว ยังขึ้นอยู่กับปริมาณผลผลิต ปริมาณการใช้ และสต็อกภายในประเทศอีกด้วย ดังนั้นการที่ปาล์มน้ำมันของไทยจะมีปริมาณมากขึ้น ขณะที่การส่งออกมีแนวโน้มลดลง จะส่งผลให้สต็อกน้ำมันปาล์มเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตามปริมาณความต้องการใช้น้ำมันปาล์มทั้งในภาคบริโภคและภาคพลังงานที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นยังเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาน้ำมันปาล์มและผลปาล์มในปี 2566 ยังอยู่ในระดับสูง โดยน้ำมันปาล์มอยู่ที่กิโลกรัมละ 34.00 บาทและส่งผลให้ราคาปาล์มน้ำมันที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 6.12 บาท

สำหรับสถานการณ์การผลิตของไทยในปี 2566 คาดว่า มีเนื้อที่ให้ผล 6.20 ล้านไร่ ผลผลิต 18.98 ล้านตัน และผลผลิตต่อไร่ 3,059 กิโลกรัม เพิ่มขึ้นจากเนื้อที่ให้ผล 6.15 ล้านไร่ ผลผลิต 18.42 ล้านตัน และผลผลิตต่อไร่ 2,994 กิโลกรัมในปี 2565 คิดเป็นร้อยละ 0.81 ร้อยละ 3.04 และร้อยละ 2.17 ตามลำดับเนื่องจากในปี 2565 ราคาปาล์มน้ำมันค่อนข้างดี ทำให้เกษตรกรเปลี่ยนพื้นที่รกร้างหรือเปลี่ยนจากการปลูกพืชอื่นมาปลูกปาล์มน้ำมัน อีกทั้งทำให้เกษตรกรมีแรงจูงใจในการดูแลบำรุงสวนปาล์มน้ำมัน ทำให้ผลผลิตและผลผลิตต่อไร่มีแนวโน้มสูงขึ้น

นอกจากนั้น ระยะนี้ปาล์มน้ำมันให้ผลผลิตมาก แม้ราคาต่อกิโลกรัมลดลง แต่ปริมาณที่เกษตรกรขายได้เพิ่มขึ้น ดังนั้นการพิจารณาถึงรายได้เกษตรกร ต้องคำนึงถึงทั้งราคาจำหน่ายและมูลค่าโดยรวมควบคู่กันไปด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันพรุ่งนี้ ( 12 ม.ค. 66 ) นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน จะลงพื้นที่จ.สุราษฎร์ธานีเพื่อรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้นของเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันและผู้ประกอบการ เจ้าของโรงสกัดน้ำมันปาล์มและลานเท ตามข้อสั่งการของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เพื่อช่วยเหลือดูแลเกษตรกรชาวสวนปาล์มที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาราคาปาล์มน้ำมันผลผลิตตกต่ำ และจะมีการร่วมประชุมหารือกับทางสมาคม โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มเพื่อหาข้อสรุปแนวทางการช่วยเหลือและหาทางออกร่วมกัน  

ที่มา เพจเศรษฐกิจการเกษตรเพื่อประชาชน-สำนักข่าวไทย