พาณิชย์ เผยปัญหาปาล์มติดคิวจบแล้ว โรงงานสกัดเปิดรับซื้อทุกโรง ดันราคาขยับทันที

กรมการค้าภายในเผยโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มทุกโรงในพื้นที่ภาคใต้ เปิดรับซื้อครบทั้งหมดแล้ว ปัญหาติดคิวคลี่คลายแล้ว แถมดันราคาผลปาล์มขยับขึ้น 10-30 สตางค์ บางพื้นที่ขึ้นแรง 40-60 สตางค์ ขอความร่วมมือชาวสวนปาล์ม อย่าเพิ่มรีบตัด ให้รอตัดสุก จะได้ราคาดี และน้ำหนักเพิ่มขึ้น ส่วนสถานการณ์ปาล์มตลาดโลก ยังคงผันผวน เชื่อหากดันส่งออก เพิ่มการใช้ไบโอดีเซล จะช่วยยกระดับราคาได้อีก

307135480 5728725247151823 4696734201987521491 n
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน

นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ติดตามสถานการณ์การเปิดรับซื้อของโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มในพื้นที่ภาคใต้ตามนโยบายนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พบว่า ล่าสุดสถานการณ์คลี่คลายแล้ว ทุกโรงงานเปิดรับซื้อตามปกติ ทำให้ราคาปาล์มน้ำมันในแหล่งผลิตภาคใต้เริ่มปรับเพิ่มขึ้นกิโลกรัม (กก.) ละ 0.10-0.30 บาท และบางพื้นที่ปรับเพิ่มขึ้นสูงถึง กก.ละ 0.40-0.60 บาท หลังจากที่กรมฯ ได้ลงพื้นที่จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อประชุมหารือแนวทางร่วมกันในการแก้ไขปัญหาร่วมกับโรงงานสกัด ลานเท และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 12 ม.ค.2566 โดยที่ประชุมมีมติร่วมกันให้โรงสกัดทุกโรงเปิดรับซื้อและเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิต และแจ้งแผนการปิดปรับปรุงให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและกรมการค้าภายในทราบ เพื่อบริหารจัดการไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการซื้อขายของเกษตรกร

ทั้งนี้ กรมฯ ขอให้เกษตรกรชาวสวนปาล์ม ยืดระยะเวลาการตัดออกไป และตัดปาล์มสุกเต็มที่ เพื่อให้ได้ราคาดีและจะได้น้ำหนักเพิ่มขึ้น และยังช่วยแก้ปัญหาการกระจุกตัวของการส่งปาล์มเข้าโรงงานสกัดได้ด้วย

สำหรับสถานการณ์การผลิต ความต้องการใช้ ราคาน้ำมันปาล์มในตลาดโลก ยังคงมีความผันผวน ซึ่งกรมฯ จะมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป และเชื่อว่าหากสามารถผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงภาครัฐมีการสนับสนุนการใช้ไบโอดีเซลภายในประเทศ จะช่วยดูดซับน้ำมันปาล์มดิบในระบบและช่วยยกระดับราคาผลปาล์มน้ำมันให้แก่เกษตรกรชาวสวนปาล์มได้

ส่วนโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์ม และมาตรการคู่ขนาน ได้แก่ โครงการผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์ม ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค.2565 แล้ว และกรมฯ ได้เสนอเรื่องดังกล่าวไปยังสํานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2565 ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.)

ทางด้านข้อกังวลของเกษตรกรเกี่ยวกับการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มในช่วงนี้ กรมฯ ได้ส่งหน่วยเฉพาะกิจเคลื่อนที่เร็วออกตรวจสอบและเฝ้าระวังในแหล่งผลิตสำคัญเป็นกรณีพิเศษอย่างเข้มงวด และได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มทุกรูปแบบ เพื่อให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มและผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม มีความมั่นใจว่าจะไม่มีการลักลอบนำน้ำมันปาล์มเข้ามาสร้างปัญหากระทบต่อราคาปาล์มน้ำมันในประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาเกิดการติดขัดเกษตรกรชาวสวนปาล์มนำปาล์มไปขายที่โรงสกัดและลานเท แต่เกิดการหยุดรับซื้อหรือชะลอการรับซื้อ สาเหตุเกิดขึ้นเพราะทุกปีที่ผ่านมาในช่วงนี้ผลปาล์มจะออกเป็นปริมาณน้อย เป็นสาเหตุที่ทำให้โรงสกัดปิดซ่อมบำรุง แต่ปีนี้มีปริมาณผลปาล์มจำนวนมาก แต่โรงสกัดปิดซ่อมเหมือนทุกปีที่ผ่านมา จึงทำให้เกษตรกรที่นำปาล์มไปขายที่ลานเทโรงสกัดเกิดการจราจรติดขัด และโรงสกัดไม่สามารถรับซื้อได้ ก็ส่งผลให้ลานเทก็รับซื้อไม่ได้ ตนได้สั่งการให้อธิบดีกรมการค้าภายในและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ให้ลงไปเร่งแก้ปัญหา ในช่วง2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา

โดย 1.ให้โรงสกัดหยุดซ่อมเครื่อง ยกเว้นที่กำลังซ่อมอยู่ก็ให้ซ่อมให้เร็วที่สุด 2. ถ้ายังไม่ซ่อม ให้หยุดซ่อมและให้รับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรตามปกติไปก่อน 3.ให้แจ้งแผนการซ่อมให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและกรมการค้าภายในทราบแผนการซ่อมว่าจะเสร็จเมื่อไหร่เพื่อที่จะได้อนุญาตให้ซ่อม แต่ไม่ซ่อมพร้อม ๆ กัน เพราะจะกระทบทำให้เกษตรกรขายปาล์มไม่ได้