กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เผยสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปของไทย มีโอกาสส่งออกสหรัฐฯ หลังกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ คาดการณ์การค้าสินค้าเกษตรปีนี้จะมีการนำเข้าเพิ่มขึ้น ทั้งผลไม้ ผัก น้ำตาล สินค้าเกษตรเมืองร้อน
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้มอบหมายให้กรมฯ สำรวจลู่ทางและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยในประเทศต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับข้อมูลจากนายนิวัฒน์ หาญสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครลอสแองเจลิส ถึงการคาดการณ์การค้าสินค้าเกษตรสหรัฐฯ ในปีงบประมาณ 2023 และโอกาสในการส่งออกสินค้าเกษตร สินค้าเกษตรแปรรูปของไทยเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ
โดยทูตพาณิชย์ลองแองเจลิสให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในปีงบประมาณ 2023 กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ คาดการณ์ว่าสภาวะเศรษฐกิจของโลกและการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ จะส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศสำหรับสินค้าเกษตรสหรัฐฯ โดยสหรัฐฯจะส่งออกสินค้าเกษตร 1.9 แสนล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญที่จะลดลง เช่น ถั่วเหลือง ฝ้าย ข้าวโพด และข้าว ที่เพิ่มขึ้น เช่น เนื้อวัว เนื้อสัตว์ปีก และข้าวสาลี ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เช่น ผลไม้ ผักสด ผลิตภัณฑ์ผัก น้ำตาล และสินค้าเกษตรเมืองร้อน รวมถึงกาแฟ โกโก้ เนื้อ นม ไข่ และสัตว์ปีก ธัญพืชและอาหารสัตว์ เมล็ดน้ำมันพืช โดยนำเข้าจากแคนาดา เม็กซิโก สหภาพยุโรป และเอเชีย
ทั้งนี้ ยังมีข้อมูลอีกว่า กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ได้ระบุถึงตัวแปรที่มีอิทธิพลต่อการค้าสินค้าเกษตรระหว่างประเทศในปีงบประมาณ 2023 ได้แก่ สงครามระหว่างยูเครนและรัสเซีย การบริโภคในตลาดจีน แรงกดดันที่มาจากการแข่งขันของประเทศต่าง ๆ ในอเมริกาใต้ที่มีผลผลิตทางการเกษตรที่ดีกว่าสหรัฐฯ ระบบโลจิสติกส์ภายในสหรัฐฯ ที่ยังมีสิ่งท้าทายจากการที่แม่น้ำ Mississippi ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าเกษตรส่งออกมีระดับน้ำลดต่ำอย่างมาก ทำให้การขนส่งสินค้าทางน้ำติดขัด และปัญหาการขาดแคลนคนขับรถบรรทุกขนส่งสินค้า สภาวะเงินเฟ้อทั่วโลก และการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ที่ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์เพิ่มสูงขึ้น ลดอำนาจการแข่งขันของสหรัฐฯ ในตลาดการค้าโลกและทำให้สินค้าสหรัฐฯ มีราคาแพง แต่สินค้านำเข้ามีราคาถูกลงสนับสนุนการเติบโตของการนำเข้า การเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศในสหรัฐฯที่เกิดภัยแล้ง ไฟป่า และเฮอริเคน ในพื้นที่เกษตรสหรัฐฯส่งผลทำให้ผลผลิตสินค้าเกษตรตกต่ำโดยเฉพาะพืชกลุ่มส้มและฝ้าย
“กระทรวงเกษตรสหรัฐฯประมาณการณ์ว่าร้อยละ 75 ของผลไม้ และเกือบครึ่งหนึ่งของผักที่บริโภคในสหรัฐฯ เป็นสินค้านำเข้าจึงเป็นโอกาสในการส่งออกสินค้าเกษตร และสินค้าเกษตรแปรรูปจากประเทศไทยเข้าสู่สหรัฐฯ เพราะสหรัฐฯประกอบด้วยคนจากหลายชาติพันธุ์ที่เป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตของประชากรในระดับสูง และผู้บริโภคกลุ่มนี้สร้างความต้องการบริโภคสินค้าอาหารแปลกใหม่ของชาติต่าง ๆ และมีอิทธิพลสร้างความสนใจและความต้องการบริโภคในหมู่ผู้บริโภคกลุ่ม Mass.Market ทำให้สหรัฐฯ เป็นตลาดนำเข้าสินค้าและผลิตภัณฑ์เกษตรหลากหลายที่มีศักยภาพสูง แม้ว่าปัจจุบันกระแส Eat.Local สินค้าเกษตรกำลังมาแรงก็ตาม ซึ่งหากผู้ส่งออกเกาะติดตลาด และวางแผนในการส่งออกให้ดีก็จะขยายตลาดส่งออกสินค้าเกษตรได้ดียิ่งขึ้น”นายภูสิตกล่าว