พาณิชย์เคาะส่วนต่างข้าวงวด 27 และ 28 จ่ายชดเชยแค่ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่

พาณิชย์เคาะส่วนต่างประกันรายได้ข้าว 2 งวดติด งวดที่ 27 และ 28 จ่ายชดเชยแค่ ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ อีก 3 ชนิด ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ข้าวเปลือกเจ้า และข้าวเปลือกเหนียว ราคาทะลุเพดาน ไม่ต้องจ่าย และข้าวเปลือกหอมมะลิ สิ้นสุดฤดูกาล มีเกษตรกรได้รับเงินรวม 4,249 ครัวเรือน เงินเข้าบัญชีเกษตรกร 26 เม.ย.นี้


         

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวว่าได้อนุมัติราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2565/66 เพื่อจ่ายเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2565/66 พร้อมกัน 2 งวด คือ งวดที่ 27 และงวดที่ 28 สำหรับเกษตรกรที่แจ้งวันเก็บเกี่ยว 8-14 เม.ย.2566 และ 15-21 เม.ย.2566 โดยทั้ง 2 งวด มีการจ่ายเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวจำนวน 1 ชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ส่วนข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ข้าวเปลือกเหนียว และข้าวเปลือกเจ้า ไม่ต้องชดเชย เพราะราคาสูงกว่าเป้าหมาย และข้าวเปลือกหอมมะลิ ไม่ต้องจ่าย เพราะสิ้นสุดฤดูเก็บข้าว
         

%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7 101
เคาะส่วนต่างข้าวงวด 27 และ 28

โดยงวดที่ 27 ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ เกณฑ์กลางตันละ 13,602.29 บาท ได้รับชดเชยตันละ 397.71 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 6,363.36 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี เกณฑ์กลางตันละ 11,061.98 บาท สูงกว่าประกันรายได้ที่ตันละ 11,000 บาท ข้าวเปลือกเจ้า เกณฑ์กลางตันละ 10,136.26 บาท สูงกว่าประกันรายได้ที่ตันละ 10,000 บาท ข้าวเปลือกเหนียว เกณฑ์กลางตันละ 12,443.48 บาท สูงกว่าประกันรายได้ที่ตันละ 12,000 บาท ส่วนข้าวเปลือกหอมมะลิ ไม่มีการคำนวณส่วนต่าง เพราะสิ้นสุดฤดูกาล
         

สำหรับงวดที่ 28 ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ เกณฑ์กลางตันละ 13,618.75 บาท ชดเชยตันละ 381.25 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 6,100.00 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี เกณฑ์กลางตันละ 11,126.88บาท สูงกว่าประกันรายได้ที่ตันละ 11,000 บาท ข้าวเปลือกเจ้า เกณฑ์กลางตันละ 10,126.87 บาท สูงกว่าประกันรายได้ที่ตันละ 10,000 บาท ข้าวเปลือกเหนียว เกณฑ์กลางตันละ 12,483.21 บาท สูงกว่าประกันรายได้ที่ตันละ 12,000 บาท ส่วนข้าวเปลือกหอมมะลิ ไม่มีการคำนวณส่วนต่าง เพราะสิ้นสุดฤดูกาล
         

ทั้งนี้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรงภายใน 3 วันทำการ หรือภายในวันที่ 26 เม.ย.2566 โดยมีเกษตรกรได้รับชดเชยตามข้อมูลของกรมส่งเสริมการเกษตรงวดที่ 27 จำนวน 2,128 ครัวเรือน และงวดที่ 28 จำนวน 2,121 ครัวเรือน รวม 2 งวด จำนวน 4,249 ครัวเรือน

“โครงการประกันรายได้ได้เดินหน้าปี 4 ทุกตัว ตอนนี้การจ่ายเงินส่วนต่างในส่วนของข้าวโพด ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลังไม่มี เพราะราคาดีมาก มันสำปะหลังประกันที่ 2.50 บาท/กิโลกรัม (กก.) ตอนนี้ไป 3 บาทกว่าเกือบ 4 บาท/กก. ะข้าวโพดประกันรายได้ที่ 8.50 บาท/กก. ตอนนี้ไป 12 บาท/กก. ส่วนปาล์มน้ำมัน ประกันรายได้ 4 บาท/กก. ตอนนี้ 5-6 บาท/กก. ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ถือว่าดี ข้าวตอนนี้ราคาเกือบถึงราคาที่ประกัน บางตัวราคาสูงกว่าที่ประกันแล้ว”นายจุรินทร์กล่าว
         

นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า การที่ราคาข้าวอยู่ในเกณฑ์ดี ในระดับที่สูงกว่าราคาประกัน จนไม่มีส่วนต่างชดเชย ส่งผลให้รัฐบาลจ่ายชดเชยส่วนต่างน้อยลง ช่วยให้ประหยัดงบประมาณที่ใช้ในการดำเนินโครงการได้อีกทางหนึ่ง ส่วนสถานการณ์ซื้อขายข้าวในตลาด มีความต้องการข้าวเจ้าอย่างต่อเนื่อง ส่วนข้าวชนิดอื่น มีการซื้อขายไม่มาก ทำให้ราคาค่อนข้างทรงตัว และการส่งออกจนถึง 20 เม.ย.2566 ส่งออกได้แล้ว 2.52 ล้านตัน เพิ่ม 20% โดยไทยยังมีคำสั่งซื้อข้าวเจ้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดว่าการส่งออกยังเป็นไปได้ด้วยดี
         

ทางด้านการจ่ายเงินส่วนต่าง ตั้งแต่งวดที่ 1-26 มีเกษตรกรได้รับเงินส่วนต่างประกันรายได้แล้วกว่า 2.635 ล้านครัวเรือน วงเงิน 7,865.66 ล้านบาท สำหรับเกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์แต่ยังไม่ได้รับเงิน ขอให้ ติดต่อ ธ.ก.ส. สาขาใกล้บ้าน เพื่อให้ ธ.ก.ส. ตรวจสอบต่อไป
         

นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้ขอความร่วมมือเกษตรกร โรงสี ผู้ค้า และหน่วยงานในพื้นที่กำกับดูแลและเพิ่มการตรวจสอบ ระมัดระวังไม่ให้เกิดการปลอมปนข้าว เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพข้าว และการส่งออกข้าวได้ และยังได้เพิ่มการติดตามดูแลการซื้อขายข้าวเปลือก ทั้งในเรื่องของการปิดป้ายแสดงราคารับซื้อ รวมทั้งตรวจสอบความถูกต้องของเครื่องชั่งน้ำหนักและเครื่องวัดความชื้น ซึ่งหากพบเห็นว่าท่าข้าวหรือโรงสีใด ไม่ปิดป้ายแสดงราคารับซื้อ กดราคารับซื้อ โกงน้ำหนัก หรือมีพฤติกรรมใด ๆ ที่เป็นการเอาเปรียบชาวนา สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน โทร 1569