​ปีนี้เห็นแววปีทองผลไม้

ปีนี้ คาดการณ์ “ผลผลิตผลไม้” ในประเทศ จะมี “ปริมาณ 6.75 ล้านตัน” เพิ่มขึ้น 3% หรือผลผลิตเพิ่มประมาณ 2 แสนตัน จากผลผลิต 6.56 ล้านตัน ในปี 2565

สำหรับผลผลิตผลไม้ที่จะเพิ่มขึ้น เช่น ทุเรียน เพิ่ม 18% มังคุด เพิ่ม 22% เงาะ เพิ่ม 4% ลองกอง เพิ่ม 80% และลำไย เพิ่ม 0.8% เป็นต้น

ตอนนี้ ผลไม้ได้เริ่ม “ออกสู่ตลาด” แล้ว เริ่มตั้งแต่ช่วง “กลางเดือนเม.ย.2566” เป็นต้นมา

แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่เห็นสัญญาณ “ราคาตกต่ำ” เห็นแต่สัญญาณ “ราคาสูงขึ้น

เริ่มจาก “มะม่วง” ที่เริ่มออกสู่ตลาดเป็นตัวแรก ๆ ของปีนี้ สถานการณ์ยัง “เป็นปกติ

%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%81
ผลไม้ไทย

ที่ผ่านมา เกษตรกรมี “ความกังวล” ว่า ช่วงผลผลิตออกพร้อม ๆ กัน จะมีปัญหา “ราคาตกต่ำ” แต่ปรากฎว่า ไร้ซึ่งปัญหา ทั้ง ๆ ที่คาดการณ์ผลผลิตในภาพรวมจะมีปริมาณสูงถึง 1.34 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 4% ก็ตาม

เนื่องจากปีนี้ “กรมการค้าภายใน” ได้เตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้า ใช้โครงการการ “อมก๋อย โมเดล” และโครงการ “Fruit Festival 2023” พร้อม ๆ กัน ด้วยการนำผู้ประกอบการไปรับซื้อผลผลิตในพื้นที่ ๆ ผลผลิตมาก อย่าง “พิษณุโลก-พิจิตร” แล้วนำระบายออกผ่านจุดจำหน่าย Fruit Festival 2023 อย่างรวดเร็ว

ทำให้ช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมา “ไม่มีปัญหา” ราคาตกต่ำ มีแต่ “ราคาเพิ่มขึ้น” และคาดว่า “ช่วงปลายฤดู” ของมะม่วง ราคาจะยิ่ง “ปรับตัวสูงขึ้นอีก

ปัจจุบัน มะม่วงน้ำดอกไม้ เกรด AB อยู่ที่ 20-25 บาท/กิโลกรัม (กก.) สูงกว่าปีที่ผ่านมาที่ 15-20 บาท/กก. เพิ่มขึ้น 29% มะม่วงน้ำดอกไม้ เกรด C ปัจจุบัน 15-20 บาท/กก. สูงกว่าปีที่ผ่านมาที่ 10-15 บาท/กก. เพิ่มขึ้น 40% ส่วนมะม่วงฟ้าลั่น อยู่ที่ 9-10 บาท/กก. สูงกว่าปีที่ผ่านมาที่ 6-7 บาท/กก. เพิ่มขึ้น 46%

ส่วนผลไม้ชนิดอื่น ๆ ตอนนี้ ก็เริ่มออกสู่ตลาดแล้ว ราคาอยู่ใน “เกณฑ์ดี” ทุกตัว

ยกตัวอย่างเช่น “ทุเรียนหมอนทอง” ช่วงราคาตกอยู่ที่เฉลี่ย 117 บาทต่อกก. ตอนนี้ 150 บาทต่อกก. “มังคุด” ช่วงราคาไม่ค่อยดี 61 บาทต่อกก. ตอนนี้ 110 บาทต่อกก. แต่ล่าสุดราคามังคุดเกรดส่งออก ณ วันที่ 29 เม.ย.2566 ที่จังหวัดจันทบุรี ขยับขึ้นไปเป็น 161 บาทต่อกก. เพิ่มขึ้น 164% ทำสถิติ “ราคาสูงสุด” เป็นประวัติศาสตร์

สำหรับ “เงาะ” ตอนราคาไม่ดี 24 บาทต่อกก. ตอนนี้ 35 บาทต่อกก. “สับปะรดภูแล” ช่วงราคาตก 3.75 บาทต่อกก. ตอนนี้ 8-12 บาทต่อกก. “ส้มเขียวหวาน” ช่วงราคาตก 20 บาทต่อกก. ขณะนี้ 25 บาทต่อกก. เป็นต้น

ทางด้าน “การส่งออก” ก็เริ่มเห็น “สัญญาณดีขึ้น” โดยช่วง 3 เดือนของปี 2566 (ม.ค.-มี.ค.) พบว่า “ผลไม้สดและแปรรูป” ส่งออกแล้วมูลค่า 27,886 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55%

เฉพาะ “ทุเรียน” มียอดส่งออกเดือน มี.ค.2566 เดือนเดียว เพิ่มขึ้น 237% และ “ลำไยสด” เพิ่ม 42%

โดยคาดว่าจากนี้ไป การส่งออกผลไม้ชนิดอื่น ๆ ก็จะยิ่งเพิ่มขึ้น เพราะผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาดแล้ว

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์” บอกว่า ปีนี้ “กระทรวงพาณิชย์” ได้ประเมินสถานการณ์ผลไม้ และเตรียม “มาตรการบริหารจัดการผลไม้เชิงรุกปี 2566” ไว้ล่วงหน้าตั้งแต่เดือนมี.ค.2566 จำนวน 22 มาตรการ

ขณะนี้ได้ “ขับเคลื่อน” มาตรการตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาลผลิตแล้ว ทำให้ “ราคาผลไม้” ภาพรวม อยู่ใน “เกณฑ์สูง” และแนวโน้มราคาจะยังคง “ทรงตัวสูง” ต่อไป

สำหรับ “ปัจจัย” ที่ช่วย “ผลักดัน” ให้ราคาผลไม้ปรับตัวสูงขึ้น มาจาก “ความต้องการ” ผลไม้ไทย ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ

ประกอบกับการเข้าไป “บริหารจัดการผลไม้” ของกระทรวงพาณิชย์ ที่ดูแลในช่วงที่ผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาด ด้วยการเร่งระบายผลผลิตจากแหล่งผลิตออกสู่ตลาดอย่างรวดเร็ว มีเป้าหมายรวม 7 แสนตัน ที่ขณะนี้ ได้เริ่มดำเนินการไปแล้ว

ส่วน “ปัญหาอุปสรรค” ที่เคยมีก่อนหน้านี้ อย่างเรื่อง “การขนส่งผลไม้” ผ่านด่านชายแดนทาง “เวียดนาม” และ “สปป.ลาว” ไปจีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของผลไม้ไทย ก็ได้มีการแก้ไขปัญหาแล้ว

ล่าสุด “นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์” ได้เดินทางไปสำรวจด่าน “โหยวอี้กวน” ที่ผ่านนครพนม สปป.ลาว และเวียดนามเข้าจีน และด่าน “โม่ฮาน” ผ่านเชียงราย เชียงของ และเข้าจีน ด้วยตนเอง และไปหารือกับผู้บริหารด่าน เพื่อให้ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผลไม้ไทย

ทำให้ปัญหาผลไม้ “ติดด่าน” ปีนี้ จะไม่มี มีแต่ “ทางสะดวก” แต่ถ้าต่อไป “เกิดมี” ก็จะมี “ช่องทาง” แก้ไขอย่างรวดเร็ว เพราะทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันไว้แล้ว   

พูดได้ว่า ปีนี้จะเป็น “ปีทอง” ของชาวสวนผลไม้

และเป็นปีที่ “ดีที่สุด” ในประวัติศาสตร์อีกปีหนึ่ง

นายจุรินทร์” สรุปไว้แบบนี้  

ดู “ทิศทาง” แล้ว น่าจะจริง

ที่มา กระทรวงพาณิชย์