นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดงาน“Thailand 2024 The Great Challenges เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ขยายโอกาส” พร้อมด้วย ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวบรรยายพิเศษในหัวข้อ “ปีมังกรทอง เกษตรไทย” และนายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในหัวข้อ “ลดรายจ่าย ลดเหลื่อมล้ำ” ณ โรงแรมพูลแมน คิงเพาเวอร์ รางน้ำ กรุงเทพมหานคร ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการสื่อสารกับประชาชนให้เข้าใจถึงภาพรวมการบริหารงานของรัฐบาลในการนำพาประเทศไทยให้พ้นจากปัญหาเศรษฐกิจ และสังคม รวมถึงการนำหลักปรัชญาในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ คือ การเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย และขยายโอกาส
ด้าน ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวบรรยายพิเศษ ภายใต้หัวข้อ ” ปีมังกรทอง เกษตรกรไทย” ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังคงเดินหน้า พร้อมบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อขับเคลื่อนภารกิจตามนโยบายด้านการเกษตรของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สู่ความสำเร็จอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เพื่อช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาปากท้องของพี่น้องเกษตรกร ให้กินดีอยู่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดี ภายใต้นโยบาย เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น 3 เท่า ภายในระยะเวลา 4 ปี ซึ่งมีหลักการสำคัญ ได้แก่ 1) สร้างวิธีการทำงานสู่การปฏิบัติ 2) รับมือภัยธรรมชาติ 3) ปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย 4) ยกระดับสินค้าเกษตร เสริมศักยภาพเกษตรกร และ 5) จัดการทรัพยากรทางการเกษตร และการอำนวยความสะดวกด้านการเกษตร
นอกจากนี้การขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายใต้ The Great Challenges ด้วยการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ขยายโอกาส ซึ่งสอดคล้องกับการดำเนินนโยบายของรัฐบาล จะเป็นการช่วยแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องเกษตรกร
สำหรับ นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวบรรยายในหัวข้อ “ลดรายจ่าย ลดเหลื่อมล้ำ” ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีนโยบายในการพักหนี้ให้แก่เกษตรกร ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ถือเป็นโอกาสที่ดีแก่ผู้ที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังดำเนินการตามนโยบายดังกล่าว ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ตลอดจนปลายน้ำ เพื่อลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และขยายโอกาส พร้อมตัดวงจรหนี้นอกระบบแก่เกษตรกร
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของท่าเรือในจังหวัดเพชรบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งจะผลักดันให้เป็นศูนย์กลางในการส่งออกสินค้าแปรรูปด้านปศุสัตว์ให้เป็นสินค้า Premium พร้อมเร่งดำเนินงานโครงการนำร่อง Kick off ส่งออกโคมีชีวิต 2,000 ตัว ไปยังประเทศเวียดนามเป็นที่แรก และยังทิ้งท้ายสโลแกนว่า “ชีวิตของเกษตรกรในยุคนี้ จะต้องเป็นเกษตรยุคใหม่ที่มีคุณภาพ และอาชีพเกษตรกรรมจะต้องเป็นอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ และเป็นหลักประกันในสังคมในชีวิตให้ได้”
นอกจากนี้ รัฐบาลได้สร้างความเข้าใจในแนวทางการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของประเทศไทย รวมทั้งทำให้สังคมมองเห็นถึงแนวทางการขับเคลื่อนของประเทศไทยในปัจจุบัน พร้อมผลักดันในการเดินไปข้างหน้าของประเทศไทยท่ามกลางสถานการณ์ที่ท้าทายในปี 2567