กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) หารือภาคเอกชนกลุ่มเกษตร อาหาร และเครื่องดื่ม คาดแนวโน้มการส่งออกยังดีขึ้นต่อเนื่อง ได้รับปัจจัยบวกจากบาทอ่อนค่า หลายประเทศต้องการเพิ่มความมั่นคงด้านอาหาร มีการเปิดประเทศ ทำให้ต้องการสินค้ามากขึ้นและส่งออกไปตะวันออกกลางดีขึ้นจากกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้มอบหมายให้เพิ่มกิจกรรมส่งเสริมและผลักดันการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศต่าง ๆ กรมฯ ได้รับนโยบายและจัดให้มีการประชุมหารือกับภาคเอกชนสินค้าเกษตร อาหาร และเครื่องดื่ม เมื่อวันที่ 1 ก.ค.2565 ที่ผ่านมา เพื่อทราบถึงสถานการณ์ของสินค้าและหารือแนวทางในการส่งเสริมการส่งออก
เช่น สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย สมาคมกุ้งไทย สมาคมทูน่าไทย สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย สมาคมการค้าเกษตรอินทรีย์ไทย สมาคมผู้ค้าและส่งออกผลไม้ไทย สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทย และสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป รวม 24 สมาคม
ทั้งนี้ ผลการหารือทราบว่าสินค้าในกลุ่มอาหารส่วนใหญ่ ยังคงมีแนวโน้มและทิศทางที่ดีในการส่งออก รวมทั้งจะมีตัวเลขในการส่งออกเพิ่มขึ้น เช่น น้ำมันปาล์ม เครื่องดื่ม ผลไม้ ผัก ประมง โดยเฉพาะปลาทูน่า อาหารสัตว์เลี้ยง ปศุสัตว์ อาหารสําเร็จรูป อาหารแห่งอนาคต (Future Food) ข้าว และมันสําปะหลัง เป็นต้น
“ภาคเอกชนให้ข้อมูลว่าการส่งออกสินค้าในกลุ่มอาหารข้างต้น ที่มีแนวโน้มดี เนื่องจากเงินบาทมีทิศทางอ่อนค่า ประเทศคู่ค้าต้องการรักษาความมั่นคงทางอาหาร หลายประเทศเริ่มทยอยเปิดประเทศและผ่อนคลายมาตรการควบคุมให้ดําเนินกิจกรรมเศรษฐกิจได้ปกติ และการส่งออกไปยังตลาดตะวันออกกลางจะดีขึ้น เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภาคพลังงานซึ่งส่งผลดีต่อกําลังซื้อ นายภูสิตกล่าว
สำหรับสถานการณ์ส่งออกสินค้าเกษตร อาหาร และเครื่องดื่ม ในช่วง 5 เดือน ปี 2565 (ม.ค.-พ.ค.) มีมูลค่ารวม 467,255.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.16% โดยสินค้าเกษตรและอาหารที่ส่งออกสำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่
1.ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง มูลค่า 71,870.68 ล้านบาท เพิ่ม 39.37%
2.ข้าว มูลค่า 47,802.76 ล้านบาท เพิ่ม 34.55%
3.อาหารทะเลสด แช่เย็น แช่แข็ง กระป๋อง และแปรรูป (รวมทูน่ากระป๋องและแปรรูป แต่ไม่รวมกุ้งสด แช่เย็น แช่แข็ง และแปรรูป) มูลค่า 59,225.16 ล้านบาท เพิ่ม 19.92%
4.ไก่สดแช่เย็น แช่แข็งและแปรรูป มูลค่า 50,259.71 ล้านบาท เพิ่ม 15.54%
5.ผัก ผลไม้ สดแช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง มูลค่า 90,911.75 ล้านบาท เพิ่ม 10.16%
ส่วนตลาดส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารที่สำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.จีน มูลค่า 95,289.96 ล้านบาท เพิ่ม 10.92% 2.สหรัฐฯ มูลค่า 60,937.81 ล้านบาท เพิ่ม 34.28% 3.ญี่ปุ่น มูลค่า 56,728.94 ล้านบาท เพิ่ม 10.01% 4.อินเดีย มูลค่า 21,926.56 ล้านบาทเพิ่ม 219.90% และ 5.มาเลเซีย มูลค่า 17,519.7 ล้านบาท เพิ่ม 36.86%