จับคู่ “ไทย-ซาอุฯ” ซื้อขายยอดปัง ทะลุ 11,630 ล้าน

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เผย ผลการจัดกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจไทย-ซาอุดิอาระเบีย มีการเจรจาจับคู่รวม 352 คู่ เกิดยอดตกลงซื้อขายกว่า 11,630 ล้านบาท ระบุอาหาร ก่อสร้าง การดูแลสุขภาพ ค้าปลีก ขนส่ง อัญมณีและเครื่องประดับสุดฮอต เตรียมลุยจัดกิจกรรมกระตุ้นความต้องการสินค้าไทยต่อ ทั้งโปรโมตในห้าง เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ตามด้วย “จุรินทร์” นำทีมรัฐและเอกชนไปเจรจาการค้าอีกครั้งช่วงปลายส.ค.หรือต้นก.ย.นี้

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยถึงผลการจัดกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจ Thai–Saudi Business Matching ที่กรมฯ ได้ดำเนินการร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้มอบหมายให้หาโอกาสในการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศต่าง ๆ ว่า กรมฯ ได้รับรายงานผลการเจรจาเบื้องต้นแล้ว ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมาย โดยเอกชนซาอุดิอาระเบียจากหอการค้ามณฑลริยาด ที่เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 70 บริษัท ได้มีการเจรจาจับคู่เจรจากับนักธุรกิจไทยกว่า 352 คู่ สามารถสร้างมูลค่าการซื้อขายทันทีประมาณ 130 ล้านบาท และมูลค่าคาดการณ์ภายในหนึ่งปี อีกกว่า 11,500 ล้านบาท

62cb9fa0dfe4a
ซื้อขาย ไทย-ซาอุฯ ยอดทะลุหมื่นล้าน

สำหรับกลุ่มสินค้าและบริการที่ได้รับความสนใจและตกลงซื้อขาย ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่ม ก่อสร้าง การดูแลสุขภาพ ค้าปลีก การขนส่ง และอัญมณีและเครื่องประดับ ตามลำดับ โดยคาดว่า หลังจากตกลงซื้อขายกันในครั้งนี้แล้ว จะมียอดการสั่งซื้อเพิ่มขึ้นตามมาอีกในอนาคต เพราะเท่าที่ได้รับรายงานจากการจัดกิจกรรม สินค้าไทยได้รับการชื่นชมว่าเป็นสินค้าดี มีคุณภาพ มีมาตรฐาน และเชื่อว่าจะเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคชาวซาอุดิอาระเบีย

นายภูสิต กล่าวว่า นอกเหนือจัดกิจกรรมในครั้งนี้ กรมฯ มีแผนจัดกิจกรรมขยายตลาดซาอุดิอาระเบียเพิ่มเติมอีก โดยจะร่วมกับซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำในซาอุดิอาระเบีย ได้แก่ Manuel และ LULU จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าไทย เช่น ข้าว อาหารฮาลาล และผลไม้ เป็นต้น เพื่อให้สินค้าไทยเป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้นและจะเร่งประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์สินค้าอาหาร สินค้าฮาลาล สินค้าอุตสาหกรรม สินค้าความงาม ผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม

นอกจากนี้ จะเชิญผู้ซื้อ ผู้นำเข้าจากซาอุดิอาระเบียเข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติในประเทศไทย ซึ่งรวมถึงการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในรูปแบบปกติ หรือในรูปแบบไฮบริดและออนไลน์ เช่น งานแสดงสินค้าและบริการด้านโลจิสติกส์ (TILOG VE/TILOG- LOGISTIX) ระหว่างวันที่ 24-26 ส.ค.2565 งานแสดงสินค้าเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น (Bangkok RHVAC 2022) และงานแสดงสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 2565 (Bangkok E&E 2022) ระหว่างวันที่ 7-10 ก.ย.2565 และงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ (Bangkok Gems & Jewelry Fair) ระหว่างวันที่ 7-11 ก.ย.2565

ขณะเดียวกัน ได้เตรียมการนำคณะผู้แทนการค้าภาครัฐและภาคเอกชน นำทีมโดยนายจุรินทร์เป็นหัวหน้าคณะ เดินทางไปเยือนซาอุดิอาระเบีย ในช่วงปลายเดือนส.ค.หรือต้นเดือนก.ย.2565 เพื่อขยายโอกาสทางการค้า การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-ซาอุดิอาระเบีย

ซาอุดิอาระเบียเป็นคู่ค้าอันดับที่ 17 ของไทย และเป็นคู่ค้าอันดับที่ 2 ของไทยในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยในปี 2565 ไทยและซาอุดิอาระเบียมีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 232,757.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.75% โดยเป็นการส่งออก มูลค่า 51,934.34 ล้านบาท ลดลง 0.94% นำเข้า 182,822.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.72% และในช่วง 5 เดือนปี 2565 (ม.ค.-พ.ค.) การค้าไทย-ซาอุดิอาระเบียมีมูลค่า 122,235.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.56% เป็นการส่งออก มูลค่า 25,697.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.30% และนำเข้ามูลค่า 96,537.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54.31%

โดยสินค้าที่ไทยส่งออกไปซาอุดิอาระเบีย 5 อันดับแรกในช่วง 5 เดือนปี 2565 ได้แก่ รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ผลิตภัณฑ์ยาง อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล และนำเข้าจากซาอุดิอาระเบีย 5 อันดับแรก ได้แก่ น้ำมันดิบ เคมีภัณฑ์ ปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ น้ำมันสำเร็จรูป และสินแร่โลหะอื่น ๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์