การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ ( 9 เม.ย. 68 ) มีเรื่องด่วนที่ สส. นำปัญหาเข้ามาสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น

’สส.เล็ก‘ ญาณธิชา บัวเผื่อน ส.ส.จันทบุรี พรรคประชาชน นำเรื่อง
- ขอให้ตรวจ BY2 และ แคดเมียมเฉพาะในเนื้อ
- หากตรวจเจอสาร BY2 ขอว่าอย่าปิดแล็บ เนื่องจากแล็บรับรองผลการตรวจเฉพาะตัวอย่างที่ตรวจเท่านั้น การตรวจก็เป็นคนละตัวอย่างกับที่จีนตรวจ ดังนั้นตรวจเจอ BY2 แล้วปิดแล็บ จึงอาจไม่สมเหตุสมผล
ขอให้นายกฯ เร่งเจรจากับรัฐบาลกลางของจีน เพื่อเร่งหาทางออก และนายกฯ ต้องใส่ใจและให้ความสำคัญ เพราะ การส่งออกทุเรียนมีมูลค่าสูงถึง 150,000 ล้านบาท เกี่ยวข้องกับคนจำนวนมากในห่วงโซ่ทุเรียน หากส่งออกไม่ได้จะทำให้เดือดร้อนกันเป็นวงกว้าง
สส.ปุ้ย’ พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรครวมไทยสร้างชาติ นำเรื่องการสวมสิทธิ์ GAP สวนทุเรียนใน จ.นครศรีธรรมราช เข้ามาหารือ/สอบถามการแก้ปัญหา เพราะหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รู้ทั้งรู้ ว่า ล้งไหนเป็นคนสวมสิทธิ์แปลงทุเรียน แต่ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ เพิ่มเติม
’สส.กานต์‘ สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย หารือเรื่องปัญหาการส่งออกทุเรียนไทยเนื่องจากว่า ทุเรียนไทยตรวจพบสารย้อมทุเรียน Basic Yellow2 (BY2)
แต่ในขณะเดียวกันก็พบว่าผู้ประกอบการบางรายได้นำทุเรียนที่ถูกตีกลับมาจากประเทศปลายทาง นำมาแช่แข็งและส่งกลับไปซ้ำอีกรอบ ซึ่งถ้าหากทุเรียนเหล่านี้ถูกกระบวนการตรวจสอบในรอบต่อไปก็อาจโดนตรวจพบสารและตีกลับได้อีก และจะเป็นปัญหาใหญ่ที่จะทำให้การส่งออกทุเรียนยากขึ้นในอนาคต และจะเป็นหายนะมาสู่เกษตรกรไทยโดยรวม
ปัญหารุมเร้าทุเรียนไทย อยู่ภายใต้ กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่จะต้องแก้ปัญหา และเป็นเรื่องที่หนักอึ้งมาก
เนื่องจาก การส่งออกทุเรียนไทย ไม่เคยกระทบหนักถึงขั้นระงับ LAB / ระงับ GAP สวน จาการปนเปื้อน BY2 และแคดเมียม เพราะสิ่งที่เจอในแต่ละปี คือ ทุเรียนอ่อน และสวม GAP สวน
เต็มที่ ทางการจีน ก็แค่ แจ้งทางการไทยพบความผิดปกติของล้ง และแจ้งระงับ DOA ล้ง
แต่ปี 2568 นี้ จีน ใช้วิธีการระงับ DOA และ GAP เองโดยตรง เพราะนอกจากสวน และผู้ประกอบการ จะขึ้นทะเบียนฝั่งไทยแล้ว ยังต้องขึ้นทะเบียนที่ฝั่งจีน ด้วย
จึงเป็นที่มาของก่อนหน้านี้ จีนแจ้งทางการไทย ชะลอการขอขึ้นทะเบียนผู้ส่งออกรายใหม่อย่างไม่มีกำหนด