นายทรงพล พูลสวัสดิ์ ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดอ่างทอง เปิดเผยกรณี ที่บางเพจ ซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวข้องด้านสื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ นำเสนอข้อมูลคุณภาพเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2568 เวลา 17.00 น. พบ ปริมาณ PM2.5 ในประเทศเกินค่ามาตรฐาน 9 จังหวัด หนึ่งในนั้น คือ จังหวัดอ่างทอง

จึงอยากสอบถาม เพจดังกล่าว จัดเก็บข้อมูลคุณภาพอากาศของจังหวัดอ่างทอง อย่างไร เพราะตัวเองตรวจสอบข้อมูลในพื้นที่กับส่วนราชการ และเกษตรกร เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ที่ผ่ายมา ไม่พบ การเผาในพื้นที่ และกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอ่างทอง ออกประกาศ ‘ห้ามเผา’ ตั้งแต่ เดือนธันวาคม 2568 – 31 พฤษภาคม 2569

ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดอ่างทอง ระบุว่า การนำเสนอข้อมูลเฉพาะปริมาณ PM2.5 ในประเทศเกินค่ามาตรฐาน ไม่ลงรายละเอียด โดยเฉพาะใน จ.อ่างทอง อาจทำให้คนทั่วไปเข้าใจผิด และเกษตรกรตกเป็นจำเลย ว่า ในพื้นที่มีการเผาพื้นที่การเกษตรจำนวนมาก จึงทำให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐาน ซึ่งข้อเท็จจริง ‘ไม่มีการเผาพื้นที่การเกษตร เลย‘ และข้อมูลคุณภาพอากาศในอ่างทอง ยังระบุว่า ‘คุณภาพอากาศปานกลาง‘ เหมาะกับการทำกิจกรรมกลางแจ้ง

จึงอยากให้ขยายข้อมูลที่มาของค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐานด้วยว่า มาจากแหล่งใด เพราะท้องฟ้าไม่มีพรหมแดน หรือแนวเขตกั้น เป็นไปได้หรือไม่ สภาพพื้นที่ จ.อ่างทอง เป็นท้องกะทะ เมื่อลมนิ่งค่าฝุ่นละอองจากที่อื่นน จึงลอยมาที่ จ.อ่างทอง
น.ส.อัยมัญช์ ไอยรากุลวัฒน์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดอ่างทอง ระบุว่า การนำเสนอข้อมูล เพียงแค่ PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน แต่ไม่ลงรายละเอียดสาเหตุการทำให้เกิดค่าฝุ่นละออง และการนำเสนอบางสื่อ ใช้คำว่า ‘เปิดจังหวัดจมฝุ่นฯ’ จะทำให้เกิดความเสียหายและกระทบด้านการท่องเที่ยว อย่างมาก เนื่องจากเดือนธันวาคม เป็นต้นไป จังหวัดอ่างทอง จะมีกิจกรรมที่ส่งเสริมการท่องเที่ยว(กลางแจ้ง) หลายกิจกรรม เมื่อมีข้อมูลที่จะเกิดผลกระทบด้านสุขภาพออกมา โดยไม่ได้ระบุสาเหตุ หรือที่มา ที่ไป อาจทำให้นักท่องเที่ยวยกเลิกการมาท่องเที่ยว และคนจังหวัดอ่างทองตกเป็นจำเลยได้ ว่า ทำให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่ เพราะฉะนั้นการเผยแพร่ข้อมูลต้องระบุ หรือหาสาเหตุเพิ่มในรายละเอียดด้วย





