“ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ” คือ ปุ๋ยอินทรีย์ที่ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อโดยใช้อุณหภูมิสูง ฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น โรคพืช โรคสัตว์ โรคมนุษย์ และจุลินทรีย์ทั่ว ๆ ไป จากนั้นให้นำจุลินทรีย์ที่เลี้ยงไว้ โดยมีคุณสมบัติเป็นปุ๋ยชีวภาพมาผสมกับปุ๋ยอินทรีย์ดังกล่าว หลังจากนั้นให้ทำการหมักต่อไป จนกระทั่งจุลินทรีย์ที่ใส่ลงไปในปุ๋ยอินทรีย์มีความคงที่ โดยจุลินทรีย์เหล่านี้จะคอยช่วยตรึงไนโตรเจนให้พืช ผลิตฮอร์โมน ควบคุมโรค และกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรคอีกด้วย ทำให้ได้ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพที่มีคุณสมบัติของปุ๋ยอินทรีย์ และ ปุ๋ยชีวภาพ

คุณสมบัติเด่น
- บำรุงดิน: เพิ่มอินทรียวัตถุ ทำให้ดินร่วนซุย มีอากาศถ่ายเทดี และรักษาความชื้นได้ดี
- เพิ่มธาตุอาหาร: จุลินทรีย์ช่วยย่อยสลายและปลดปล่อยธาตุอาหาร NPK และอาหารรองให้พืชนำไปใช้ได้ทันที
- สร้างฮอร์โมนพืช: จุลินทรีย์บางชนิดสร้างออกซิน ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของราก
- ควบคุมโรคพืช: ช่วยลดเชื้อก่อโรคในดินและสร้างภูมิคุ้มกันให้พืช.
- ลดการใช้ปุ๋ยเคมี: ลดการพึ่งพาปุ๋ยเคมีได้ถึง 25-30%.

วิธีการทำงานหลัก
- หมัก: นำวัสดุอินทรีย์ (เช่น มูลสัตว์, ซากพืช) มาหมัก.
- เติมจุลินทรีย์: ใส่จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ลงไป เช่น จุลินทรีย์ตรึงไนโตรเจน (ไรโซเบียม) หรือจุลินทรีย์ย่อยสลายฟอสเฟต
- ย่อยสลาย: จุลินทรีย์ช่วยย่อยสลายอินทรียวัตถุให้กลายเป็นสารอาหารที่พืชดูดซึมได้

ประเภทของปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ
สามารถแบ่งตามลักษณะการใช้งานได้เป็น 2 รูปแบบหลัก
- แบบแห้ง (ปุ๋ยหมัก): ทำจากมูลสัตว์ เศษพืช แกลบ และรำละเอียด หมักจนย่อยสลายสมบูรณ์
- แบบน้ำ (น้ำหมักชีวภาพ): ได้จากการหมักเศษผัก ผลไม้ หรือซากสัตว์ กับกากน้ำตาลและจุลินทรีย์

ประโยชน์ต่อการเกษตร
- เป็นมิตรต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม.
- ปรับสมดุลธาตุอาหารในดินให้ดีขึ้น.
- ทำให้ผลผลิตดีขึ้นและลดต้นทุนการผลิตระยะยาว





