จนท.เร่งขยายผลตรวจทุเรียนด้อยคุณภาพ 2 ตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งตีตราส่งจากล้ง 2 แห่งในจังหวัดชุมพร เตรียมส่งออกไปขายจีน แต่ด่านตรวจพืชฯพบไม่ตรงกับที่แจ้งตามเอกสาร ทั้งปริมาณและคุณภาพจนต้องตีกลับ
16.30 น.วันนี้(6 ก.ย.65)เจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตร ประสานหน่วยงานในพื้นที่ จ.ชุมพร เปิดตู้ทุเรียนที่ถูกด่านตรวจพืชนครพนม ตีกลับเมื่อคืนวันที่ 4 กันยายน 2565 โดย จนท.ด่านตรวจพืชนครพนมสุ่มตรวจพบว่า ผลทุเรียนมีเพลี้ยแป้งราดำปนเปื้อนจำนวนมาก จึงงดการออกใบสุขอนามัยพืช และเมื่อตรวจสอบจากตู้ในวันนี้ ก็พบว่าที่ผลทุเรียนมีเพลี้ยแป้งราดำจริงตามที่ด่านปลายทางตรวจพบ
ซึ่งเมื่อคืนนี้มีการตีกลับทุเรียนจากด่านตรวจพืชนครพนมให้มาลงที่” ล้งบริษัท ท.ซ.“ อ.หลังสวน จ.ชุมพรซึ่งเป็นล้งต้นทางที่มีการขอส่งทุเรียนตู้ดังกล่าวออกไปที่ประเทศจีน และผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรทราบเรื่อง จึงให้แจ้งผู้ประกอบการว่า จะมีการเปิดตู้ทุเรียนตรวจสอบในวันนี้ โดย จนท.กรมวิชาการเกษตรจากส่วนกลาง แต่เมื่อคืนนี้ มีความพยายามจากคนบางกลุ่ม ที่จะขอเปิดตู้ตรวจสอบก่อน
ต่อมานาย ธรรมนูญ แก้วคงคา ผอ.สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร กรมวิชาการเกษตร พร้อมจนท.เข้าตรวจสอบ ตู้บรรจุทุเรียนตู้ที่สอง หลังถูกด่านตรวจพืชมุกดาหารตีกลับ เมื่อวันที่ 4 กันยายน2565 ให้กลับมาที่ล้ง อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร เนื่องจากด่านตรวจพืชมุกดาหาร ตรวจพบว่า ปริมาณทุเรียนในตู้ ไม่ตรงกับน้ำหนักทุเรียนที่แจ้งไว้ในเอกสารขอส่งออก และมีเพลี้ยแป้งราดำปนเปื้อนอยู่เยอะมากเช่นเดียวกับตู้คอนเทนเนอร์แรก
จากการตรวจสอบในตู้ที่ถูกตีกลับ พบว่า ทุเรียนไม่เต็มตู้ หรือบรรจุไม่เต็มตู้จริง และผลทุเรียนพบเพลี้ยแป้งราดำหรือทุเรียนแตก ตามที่ด่านตรวจพืชมุกดาหาร แจ้งให้ตีกลับจริง
เมื่อตรวจสอบรายละเอียด พบด้วยว่า ทุเรียนตู้ดังกล่าวมีการแจ้งตรวจและขอเอกสารรับรองโดยล้ง“ทกรว” เช่นเดียวกับ ล้ง”ท.ซ.”ที่ อ.หลังสวน จ.ชุมพร ซึ่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและเปิดตู้ พบเพลี้ยแป้งราดำ เช่นกันในวันนี้(6/9/65)โดยด่านตรวจพืชท่าเรือระนอง และได้รับอนุญาตให้ปล่อยตู้บรรจุทุเรียนออกไป ซึ่งผิดหลักเกณฑ์ส่งออก ทั้งคุณภาพและปริมาณ ไม่ได้มาตรฐาน และไม่ตรงตามจำนวน จึงตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดต้นทางถึงปล่อยให้ปิดตู้ออกไปถุงด่านตรวจพืชมุกดาหาร และด่านตรวจพืชนครพนมได้
สำหรับล้งดังกล่าวตั้งอยู่ ต.ทุ่งตะไคร อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร มีรายงานว่า จนท.กำลังหารือเรื่องข้อกฎหมายในการดำเนินคดีกับทั้ง 2 ผู้ประกอบการ เนื่องจากข้อหาที่ดำเนินการได้ขณะนี้ คือ แจ้งเอกสารอันเป็นเท็จซึ่งหากตามความผิด และการดำเนินการ ทั้งรถ ทุเรียน และสถานที่ ถือว่าผิดหลักเกณฑ์ทั้งหมด