วันที่ 12 พ.ย. 65 พรรคสร้างอนาคตไทย แถลงเปิดชุดนโยบายภาคการเกษตรภายใต้ยุทธศาสตร์ “คืนชีวิตให้เกษตรกรไทย” โดยนายนริศ เชยกลิ่น รองหัวหน้าและโฆษกพรรค ศ.ดร.กำพล ปัญญาโกเมศ รองหัวหน้าพรรค และประธานด้านวิชาการ และนายจิรมิตร เกษร ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนด้านเกษตรยั่งยืนและเกษตรวิถีใหม่
นายนริศ กล่าวว่า ประเทศไทยมีประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกร เฉพาะที่ขึ้นทะเบียนกับรัฐมีเกือบ 10 ล้านคน แต่ที่ผ่านมาชีวิตของเกษตรกร ต้องประสบกับปัญหาความยากลำบากจากหลายสาเหตุ ส่งผลให้ชีวิตติดกับดักวงจรความยากจน
พรรคสร้างอนาคตไทยเชื่อว่าเกษตรกร คือ รากฐานสำคัญของประเทศ หากเกษตรกรไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้ ประเทศไทยก็ไม่สามารถที่จะพัฒนาก้าวหน้าต่อไปได้เช่นกัน
พรรคสร้างอนาคตไทยจึงได้กำหนดยุทธศาสตร์ “คืนชีวิตเกษตรไทย” เพื่อพลิกฟื้นชีวิตเกษตรกรในทุกมิติ รวม 8 นโยบาย ครอบคลุมทั้งด้านหนี้สิน ต้นทุนการผลิต ราคาผลผลิต ที่ดินทำกิน แก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง ฯลฯ โดยมีเป้าหมายให้เกษตรกรสามารถพลิกฟื้นชีวิตได้ภายในระยะเวลาที่รวดเร็ว
ด้าน ศ.ดร.กำพล กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ “คืนชีวิตเกษตรไทย” ประกอบด้วย 8 นโยบายหลัก คือ 1.หยุดหนี้สิน พักหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย 5 ปี และเติมเงินทุนใหม่ 2.ลดต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะหน้า รัฐจะจ่ายค่าปุ๋ยให้ครึ่งหนึ่ง อนาคคระยะยาวจะมีโรงงานปุ๋ยแห่งชาติและโครงการปุ๋ยชุมชน 3.เพิ่มรายได้จากทั้งในและนอกภาคเกษตร สนับสนุนให้เกิดสมาร์ทฟาร์มเมอร์ และผู้ประกอบการเกษตรสมัยใหม่ 4.ลดความเสี่ยงรายได้การเกษตร โดยพัฒนาระบบประกันภัยการผลิตภาคเกษตร
5.แก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง โดยจัดตั้งกระทรวงน้ำและส่งเสริมระบบธนาคารน้ำใต้ดิน 6.แก้ปัญหาสิทธิที่ดินทำกิน โดยตั้งธนาคารที่ดินเพื่อการเกษตร จัดสรรที่ดินทำกินให้ทั่วถึง 7.สร้างเศรษฐกิจฐานราก เติมทุนกองทุนหมู่บ้าน สนับสนุนการเชื่อมโยงภาคเกษตร-อุตสาหกรรม-ท่องเที่ยว 8. ปฏิรูปแก้ไขกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคในการทำกินของเกษตรกร
ศ.ดร.กำพล กล่าวต่อว่า การแก้ปัญหาหนี้สินเป็นนโยบายอันดับแรกที่ต้องดำเนินการ เพราะหนี้เปลี่ยนเสมือนตุ้มถ่วงไม่ให้เกษตรกรหลุดจากกับดักความยากจน ขณะที่หนี้สินเฉลี่ยของเกษตรกรไทยอยู่ที่ประมาณ 2-3 แสนบาทต่อครัวเรือน หรือรวมทั้งประเทศราว 6 แสนล้านบาท พรรคฯจึงเห็นว่าจำเป็นต้องมีโครงการพักชำระหนี้ อย่างน้อยเป็นเวลา 5 ปีและพักทั้งต้นและดอกเบี้ย ขณะเดียวกันต้องมีการเติมเงินทุนใหม่ให้ด้วย เพื่อให้เกษตรกรสามารถมีเงินไปเป็นทุนทำกินต่อไป
“โครงการพักหนี้ของพรรคฯจะไม่ทำลายวินัยการเงิน เพราะเกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องเข้าโปรแกรมปรับปรุงศักยภาพทั้งด้านความรู้การประกอบอาชีพ และหน่วยงานที่รับผิดชอบจะติดตามผลอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันในการเฉพาะหน้านี้รัฐจะต้องมีโครงการลดต้นทุนการผลิต เพื่อให้เกษตรกรมีกำไรจากการผลิตมากขึ้น โดยต้นทุนที่สำคัญที่สุดในปัจจุบันคือ ปุ๋ย ที่มีราคาสูงขึ้นกว่าเท่าตัวตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งพรรคฯเห็นว่ารัฐต้องช่วยเหลือแบบคนละครึ่ง เพื่อให้เกษตรมีกำไรจากการขายผลผลิตเพิ่มขึ้น”
ศ.ดร. กำพล กล่าวอีกว่า นโยบายพักหนี้และการลดต้นทุนเป็น 2 นโยบายจุดเริ่มในการ “คืนชีวิตเกษตรกร” เมื่อดำเนินการควบคู่ไปกับนโยบายอื่นอีก 6 นโยบาย พรรคฯเชื่อว่าจะสามารถทำให้ชีวิตเกษตรกรไทยพลิกฟื้นได้อย่างแน่นอน โดยพรรคฯ มีเป้าหมายจะทำให้เกษตรกรไทยมีรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิมอีกปีละ 2 แสนบาทต่อครัวเรือนต่อปี ซึ่งจะส่งผลให้เกษตรกรปลดหนี้ได้ภายในระยะเวลา 3 ปี
ด้านนายจิรมิตร กล่าวว่า การคืนชีวิตเกษตรกรจะต้องเริ่มจากการทำให้เกษตรกรพึ่งพาตนเองได้ก่อน โดยจากการทำงานร่วมกับเครือข่ายเกษตรพอเพียงกลุ่มต่างๆ ทั่วประเทศ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เกษตรกรสามารถที่จะมีเงินเหลือเพิ่มขึ้นจากเดิมได้ปีละ 2 แสนบาท โดยยึดหลักการปลูกพืชผสมผสานหรือทำกิจกรรมบนที่ดินที่มีความหลากหลาย และลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เช่นการทำปุ๋ยใช้เอง เป็นต้น
“หลังจากที่เกษตรกรสามารถยืนบนขาตนเองได้แล้ว อีกขั้นหนึ่งที่สูงขึ้นคือการนำเทคโนโลยี หรือการบริหารจัดการสมัยใหม่มาใช้ ซึ่งเป็นการเข้าสู่ระดับสมาร์ทฟาร์มเมอร์ ต่อไป” นายจิรมิตร กล่าว