ด่วนรัฐบาลจ่ายเงินรอบ 2 ให้ชาวนาวันนี้ 204,471 ราย รวม 1,780 ล้านผ่าน ธ.ก.ส.

“ทิพานัน” เผยรัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์” จ่ายเงินรอบ 2 ให้ชาวนาวันนี้ 204,471 ราย รวม 1,780 ล้านผ่าน ธ.ก.ส. พร้อมติดตามการจ่ายตรงเงินช่วยเกษตรกรผู้ปลูกข้าว กว่า 4.29 ล้านราย ให้ถึงมืออย่างรวดเร็วโปร่งใส

วันที่ 2 ธันวาคม 2565 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เนื่องจากสถานการณ์ภัยธรรมชาติและผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกข้าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยในปัญหาที่เกิดขึ้น จึงได้มอบนโยบายและติดตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือเกษตรกร ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 และมติคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. เมื่อ 21 พฤศจิกายน 2565 เห็นชอบให้ ธ.ก.ส.ดำเนินมาตรการช่วยเหลือผ่านโครงการสนับสนุน ค่าบริหารจัดการ และ พัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 ซึ่งจะจ่ายตรงให้กับเกษตรกร ที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวกับกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปีการผลิต 2565/66 ในอัตราไร่ละ 1,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 ไร่ หรือ 20,000 บาท โดยโอนเงินรอบแรกไปแล้ว เมื่อช่วงวันที่ 24-28 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา จำนวนกว่า 50,615 ล้านบาท มีผู้ได้รับประโยชน์จำนวนกว่า 4.29 ล้านราย

IMG 62235 20221202102339000000 scaled
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า วันนี้จะมีการโอนเงินจากนโยบายช่วยเหลือชาวนาจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ผ่านทาง ธ.ก.ส. รอบที่ 2 ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวทั่วประเทศอีก จำนวน 204,471 ราย เป็นจำนวนเงินกว่า 1,780 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นกำลังใจและเป็นทุนให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวในการพัฒนาคุณภาพผลผลิต เพื่อให้มีโอกาสขายข้าวในราคาที่สูงขึ้น เพื่อยกระดับรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว และก้าวสู่เกษตรมูลค่าสูงภายใต้การพัฒนาเศรษฐกิจแบบ BCG สอดคล้องกับเป้าหมายและแนวทางการพัฒนาตามยุทธศาสตร์ชาติ

ซึ่งนอกจากโครงการสนับสนุน ค่าบริหารจัดการ และ พัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 แล้ว ยังมีโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2565/66 และโครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปีการผลิต 2565/66 ด้วย

“จะเห็นได้ว่าพล.อ.ประยุทธ์มุ่งมั่นช่วยเหลือและทำจริง ตั้งใจจริง เน้นย้ำเสมอเรื่องต้องเงินถึงมือชาวนาทุกบาท ทุกขั้นตอนต้องโปร่งใสตรวจสอบได้ ตามที่ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาเกษตรกรผู้ปลูกข้าวมาโดยตลอด ทั้งออกมาตรการต่างๆเพื่อช่วยเสริมสภาพคล่อง ประคองสถานการณ์เฉพาะหน้าให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เป็นการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุดถึงมือ และยังวางแนวทางในการแก้ไขปัญหาแบบบูรณาการในระยะยาว ดูแลให้มีความมั่นคงทางรายได้ และทำให้พี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกข้าวมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลก ”น.ส.ทิพานัน กล่าว

นอกจากนี้ น.ส.ทิพานัน ยังกล่าวถึง โครงการข้าวรักษ์โลก BCG Model ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พอใจผลการติดตามโครงการข้าวรักษ์โลก BCG Model นำร่องระยะที่ 1 ที่จ.เชียงราย โดยข้าวรักษ์โลก ซึ่งเป็นแนวคิดการปลูกข้าวแนวใหม่ของชาวนาไทย โดยความร่วมมือของสมาคมพัฒนาเศรษฐกิจเกษตรรักษ์โลก ผู้ดำเนินการและดูแล สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ รวมถึงกรมการข้าว และสำนักนายกรัฐมนตรี ส่งเสริมการปรับเปลี่ยนกระบวนการทำนาใหม่ อย่างยั่งยืน ซึ่งปลอดภัยต่อทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค ตามนโยบายรัฐบาลที่สนับสนุน เกษตรปลอดภัยอาหารปลอดภัย อีกทั้งยังมีเป้าหมายไปสู่การเป็นครัวโลก
 

จากรายงานผลการปลูกข้าวในพื้นที่รวม 10,000 ไร่ ใน 7 จังหวัดที่เข้าร่วมโครงการ คือ จังหวัดเชียงราย บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี มหาสารคาม และร้อยเอ็ด
 

1. ลดต้นทุนการผลิตได้ 2,000 บาท/ไร่ (จากเดิมต้นทุน4,500 บาท/ไร่ ลดเหลือ 2,500 บาท/ไร่)
 

2. สามารถเพิ่มผลผลิตเฉลี่ย จากเดิม 300-350 กิโลกรัม/ไร่ เพิ่มเป็น 600-620 กิโลกรัม/ไร่
 

3. เกษตรกรไม่ต้องสัมผัสสารเคมี โดยเปลี่ยนมาใช้จุลินทรีย์เพื่อการเกษตร แทนการใช้ปุ๋ยเคมี สารเคมี ยาฆ่าแมลง และยาฆ่าหญ้า ทำให้ไม่มีมลพิษตกค้างรอบแปลงนา
 

4.ผลผลิตข้าวที่มีคุณภาพดี ไม่มีปนเปื้อน ได้รับการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ และมาตรฐานเกษตรปลอดภัย (GAP) ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาด ทำให้ขายได้ในราคาที่ดีขึ้น ดังนั้นจึงทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้น
 

ทั้งนี้“ข้าวรักษ์โลก”ได้ผ่านสายตาชาวโลกบนเวที การประชุมเอเปคที่เพิ่งผ่านพ้นไป และแจกให้กับสื่อมวลชนต่างประเทศที่เข้าร่วมงานด้วย