เจ้าหน้าที่ สวพ.6 (ทีมเล็บเหยี่ยวพิทักษ์ทุเรียนไทย) เข้าตรวจวัดเปอร์เซนต์น้ำหนักเนื้อแห้งทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ในล้งทุเรียนแห่งหนึ่ง อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี พร้อมฝ่ายปกครอง และตำรวจ ร่วมสังเกตการณ์หลังเกิดข้อพิพาทระหว่าง ล้ง และคนจัดหาทุเรียนมาส่งล้ง เพราะทางล้ง รับซื้อทุเรียนราว 800 กิโลกรัมไว้ จากนั้นตัดขั้วทุเรียนและบ่มทุเรียนด้วยการป้ายที่ขั้ว แต่จู่ๆ ทางล้งแจ้งกลับไปที่คนจัดหาทุเรียนว่า ทุเรียนด้อยคุณภาพ จึงขอคืนทุเรียนทั้งหมด โดยมีการเจรจาจ่ายค่าเสียหาย แต่ตกลงกันไม่ได้ เจ้าหน้าที่จึงต้องเข้าไปเป็นกลางในการหาทางออก
มายุ คนจัดหาทุเรียนส่งล้ง ให้ข้อมูลว่า ได้รับการแจ้งจากทางล้งต้องการทุเรียนหมอนทอง จึงรับอาสาไปหามาให้ โดยไปตัดทุเรียนจากสวนที่ อ.ขลุง ในราคา กิโลกรัมละ 145 บาท และขายต่อให้ล้งในราคา120 และ 150 บาท แม้จะขาดทุนซึ่งต้องทำ เพื่อรักษาลูกค้าไว้ และระหว่างที่ลัง คัดทุเรียน ปรากฏว่า คนงานล้ง ตัดขั้วทุเรียนและป้ายขั้ว จากนั้นแจ้งขอคืนทุเรียนทั้งหมด โดยอ้างว่า มีทุเรียนด้อยคุณภาพจำนวนมากไม่สามารถรับซื้อได้ จึงทำการผ่าพิสูจน์ 7 ตัวอย่าง ตรวจวัดเปอร์เซ็นต์น้ำหนักเนื้อแห้ง ก็ผ่านเกณฑ์จึงไม่เข้าใจเหตุผลทำไมทางล้ง จึงแจ้งคืนทุเรียน
นวรัตน์ ตัวแทนล้ง แจ้งว่า การตรวจทุเรียน 7 ตัวอย่าง พบมีทุเรียนด้อยคุณภาพปะปนอยู่จริง และยอมรับในความผิดพลาด ที่คนงานของล้งไปตัดขั้วทุเรียนและป้ายขั้วก่อน หากยังไม่มีการดำเนินการ 2 ขั้นตอนนี้ก็สามารถคืนได้ ทั้งนี้สิ่งที่ต้องหาทางออก คือ หากผลการตรวจของเจ้าหน้าที่ผ่านเกณฑ์ ทางล้งจะรับผิดชอบรับในส่วนที่เป็นทุเรียนได้คุณภาพ แต่หากไม่ได้คุณภาพ จำเป็นต้องส่งคืน
มีรายงานว่า การตรวจวัดเปอร์เซ็นต์น้ำหนักเนื้อแห้งทุเรียนที่มีปัญหา ราว 800 กิโลกรัมด้วยการผ่าพิสูจน์3 ตัวอย่าง พบ 2 ใน 3 การตรวจวัดเปอร์เซ็นต์น้ำหนักเนื้อแห้งผ่านเกณฑ์ที่กำหนด ทำให้ทางล้งต้องรับซื้อทุเรียนที่ผ่านเกณฑ์ แต่หากลูกใดไม่ผ่านเกณฑ์ ทาง QC ของล้งจะทำการคัดแยกส่งคืนผู้จัดหาทุเรียนและหากทุเรียนผลใดไม่ผ่านเกณฑ์ แต่มีการตัดขั้วและป้ายขั้ว ก็ให้เจรจาค่าเสียหายระหว่างกัน