เร่งสอบขบวนการสวมสิทธิ์ “ทุเรียนไทย” หลังพยายามส่งออก แต่ถูกด่านฯมุกดาหารตีกลับ

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร สั่ง สวพ.6 ขยายผล ทุเรียน 2 ตู้คอนเทนเนอร์ ที่พยายามจะส่งออกผ่านด่านตรวจพืชมุกดาหาร แต่คุณภาพไม่ผ่านและสำแดงเอกสารที่อาจอันเป็นเท็จ ก่อนถูกตีกลับที่ล้งต้นทาง จ.จันทบุรี แต่ไม่พบตู้ทุเรียนกลับไป คาดเป็นขบวนการสวมสิทธิ์ทุเรียน

วันนี้(27/6/65) เวลา 14.00 น. นาย ชลธี นุ่มหนู ผอ.สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 6 (สวพ.6) พร้อมทีมเล็บเหยี่ยวพิทักษ์ทุเรียนไทย กรมวิชาการเกษตร เข้าตรวจสอบโรงคัดบรรจุเพื่อการส่งออก(ล้ง) ม.9 ต.เขาวัว อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี หลังนายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร รับรายงานจากด่านตรวจพืชมุกดาหาร ได้สกัดรถตู้คอนเทนเนอร์ขนส่งทุเรียนที่เตรียมส่งออกไปจีน จำนวน 2 คัน  และพบความผิดปกติหลายอย่าง เช่น ทุเรียนบรรจุไม่เต็มตู้ / ทุเรียนด้อยคุณภาพอย่างรุนแรง และอื่นๆ จึงแจ้งให้กลับมาคัดบรรจุใหม่ที่ล้งต้นทาง ต.เขาวัว อ.ท่าใหม่  แต่ปรากฏว่า ไม่พบรถตู้คอนเทนเนอร์ย้อนกลับมาตามที่มีการแจ้ง จึงสงสัยว่าหายไปใหน

48BD880A 9A34 4298 AB38 6FB207CFCCFE

จากการสอบถามคนงานของล้ง บอกว่า ล้งดังกล่าวยังไม่เคยบรรจุทุเรียน เจ้าหน้าที่จึงประสานขอพบเจ้าของกิจการ และได้รับคำตอบว่าออกไปทำธุระด้านนอก กระทั่งมีคนงานอ้างเป็นเสมียนขอพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ แต่ให้รายละเอียดไม่ได้โดยเฉพาะทุเรียนที่ปล่อยออกจากล้ง ซึ่งไม่ได้มีการบรรจุ  เจ้าหน้าที่ใช้เวลาราวเกือบ 1.30 ชม. จึงมีผู้ประสานงานขอพบเพื่อแจ้งข้อมูล

ผอ.ชลธีฯ เปิดเผยว่า จากการสอบถามผู้อ้างตัวเป็นเจ้าของล้ง ยอมรับว่า ล้งตัวเองไม่ได้บรรจุทุเรียนส่งออก เพราะยังไม่ได้ใบ GMP Plus มีเพียงใบขออนุญาตตั้งโรงคัดบรรจุ และได้รับมาตรฐาน DOA สำหรับสติ๊กเกอร์ติดที่ขั้วทุเรียนแล้ว

โดยเมื่อราววันที่ 25 มิถุนายน 2565 มีเพื่อนของเจ้าของล้ง ที่อ้างว่าชื่อ “นายแทน” เป็นผู้ติดต่อว่าจะขอนำรถตู้คอนเทนเนอร์ 2 ตู้ บรรทุกทุเรียนมาปล่อยออกจากล้ง ที่ ต.เขาวัว อ.ท่าใหม่ จึงแย้งไปเพราะเอกสารยังไม่ครบ แต่นายแทน กลับบอกว่า สามารถทำได้ เพียงแต่ขอใช้สติ๊กเกอร์ติดที่ขั้วทุเรียน (DOA) ที่ล้งเพียงอย่างเดียว ซึ่งตัวเองไม่ได้เอะใจ จึงยอมให้ใช้

จากนั้นนายแทน ประสานให้เจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืชจันทบุรีมาตรวจ ก่อนปิดตู้ส่งออก เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงคนที่อยู่ในล้งพยายามชวนเจ้าหน้าที่คุยอย่างผิดสังเกต ในขณะที่เจ้าหน้าที่พยายามตรวจละเอียด โดยพบว่า กล่องถูกจัดเรียงสวยงาม แต่กล่องคล้ายสภาพเก่า จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งไปยังด่านตรวจพืชมุกดาหาร ให้ตรวจละเอียดและแจ้งถึงพฤติกรรม  

จากนั้นด่านตรวจพืชมุกดาหาร ซึ่งเป็นด่านที่ออกใบรับรองสุขอนามัยพืช ได้ทำการตรวจสอบอีกครั้ง พบทุเรียน 2 ตู้ๆ ละ 960 กล่อง น้ำหนักรวม 34,560 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 2,000,000 บาท แต่ภายหลังการสุ่มตรวจ พบว่าทั้ง 2 ตู้ บรรจุทุเรียนน้อยกว่าที่แจ้งไว้ตามเอกสาร

โดยบรรจุตู้ละ 471 กล่อง และ 472 กล่องเท่านั้น ที่สำคัญยังพบทุเรียนที่มีเพลี้ยแป้งและราดำ ผลทุเรียนด้อยคุณภาพ ไม่ตรงตามมาตรฐานการส่งออก บรรจุภัณฑ์บางส่วนอยู่ในสภาพเหมือนถูกใช้ซ้ำปะปนอยุ่กับบรรจุภัณฑ์ใหม่ สติกเกอร์ที่ติดขั้วผล และสติกเกอร์ที่ติดข้างบรรจุภัณฑ์ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขในพิธีสารไทย-จีน มีข้อความสำแดงไม่ตรงตามเอกสารที่แจ้ง 

ด่านตรวจพืชมุกดาหารจึงปฏิเสธการออกใบรับรองสุขอนามัยพืช และแจ้งให้ตัวแทนผู้ส่งออกรับทราบเพื่อขอคืนตู้สินค้าดังกล่าวกลับไปยังโรงคัดบรรจุต้นทาง โดยอ้างว่าไม่ได้ตรวจสอบสินค้าก่อนบรรจุตู้และทางบริษัทไม่ประสงค์ขอใบรับรองสุขอนามัยพืช จากนั้นด่านตรวจพืชมุกดาหารจึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ณ สถานีตำรวจภูธรเมืองมุกดาหาร 

19F55EEE DFB0 4145 83F9 AD06807AD066
0E79522A E22D 4244 A48F 395DEE3B1BC5

ผอ.สวพ.6 บอกว่า วันพรุ่งนี้(28/6/65) จะประสานตำรวจ และฝ่ายปกครอง เข้าสอบปากคำ และดำเนินคดีในเบื้องต้น รวมถึงติดตามทุเรียนด้อยคุณภาพ 2 ตู้ ว่า หายไปใหน และใครคือเจ้าของเพราะจากข้อมูลของด่านตรวจพืชมุกดาหารที่ตรวจพบ ถือว่า เป็นทุเรียนด้อยคุณภาพมาก หากหลุดออกไปยังปลายทาง จะทำให้เกิดผลเสียหายอย่างหนักกับประเทศไทย  และอาจจะเกี่ยวเนื่องกับขบวนการสวมสิทธิ์ทุเรียนไทยในต่างแดน เพราะมีรายงานว่า พฤติกรรมบรรทุกทุเรียนไม่เต็มตู้แบบนี้ คล้ายกับการเว้นพื้นที่ไว้ เพื่อไปรอขึ้นทุเรียนระหว่างทาง ด้วยการตัดฝาตู้คอนเทนเนอร์ แล้วขนทุเรียนขึ้นบรรจุ จากนั้นจึงเชื่อมใหม่ โดยที่ไม่ต้องตัดสายรัดฝาตู้ของเจ้าหน้าที่ออก

10A2341B B59E 4F24 B42F 0883C959E66A