สถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา น้ำเหนือมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า มีความห่วงใยประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่ภาคเหนือในขณะนี้ จึงได้สั่งการให้กรมชลประทานเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งเดินหน้าบริหารจัดการน้ำและควบคุมปริมาณการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม สอดคล้องกับปริมาณน้ำฝนที่ตกทางตอนบนอย่างเต็มศักยภาพ หากมีแนวโน้มปริมาณน้ำจะเพิ่มขึ้นอีก ให้แจ้งทราบอย่างทันท่วงที 

อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย

ด้านนายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา เช้าวันนี้ (11 ส.ค. 65) เวลา 06.00 น. ที่สถานี C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,199 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที (เมื่อวาน 969 ลบ.ม./วินาที) ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 5.37 เมตร แนวโน้มเพิ่มขึ้น 

23D012ED BDE9 4A71 8BCC 95F462B4A3FD

มีการควบคุมการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาที่สถานี C.13 อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ในอัตราประมาณ948 ลบ.ม./วินาที (วานนี้ 886 ลบ.ม./วินาที) จะส่งผลให้พื้นที่ด้านท้ายเขื่อน มีระดับน้ำทยอยเพิ่มสูงขึ้นบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำบริเวณคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย)

สำหรับปริมาณน้ำใน 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา ณ วันที่ 11 ส.ค. 65 (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกัน 11,176 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 45 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ รวมกันประมาณ 129.68 ล้าน ลบ.ม. รับน้ำได้อีกกว่า 13,695 ล้านลบ.ม.