กรมชลประทานเร่งผลักดันน้ำในแม่น้ำมูลลงสู่แม่น้ำโขง

กรมชลประทาน ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำกว่า 170 เครื่อง เร่งผลักดันน้ำในแม่น้ำมูลลงสู่แม่น้ำโขงให้เร็วขึ้น บรรเทาปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำมูล-ชีตอนบน และเตรียมรับน้ำหลากในระยะต่อไป

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกชุกในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มน้ำมูล ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำมูล ลำน้ำสายหลัก และสายรอง เพิ่มสูงขึ้นจนเอ่อล้นตลิ่งบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำบางแห่ง มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 จังหวัด ได้แก่

* อ.เมืองยาง จ.นครราชสีมา

* อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์

* อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์

* อ.ราษีไศล อ.ศิลาลาด อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ 

* อ.วารินชําราบ อ.เดชอุดม อ.นาจะหลวย อ.นาเยีย อ.น้ำยืน อ.ดอนมดแดง อ.ตระการพืชผล และอ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราขธานี

ปัจจุบันแนวโน้มระดับน้ำในแม่น้ำมูลช่วงตอนบนเริ่มลดลง กรมชลประทาน ได้เร่งระบายน้ำในพื้นที่จ.นครราชสีมา ด้วยการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 6 เครื่อง เร่งผลักดันน้ำในลำตะคองลงสู่แม่น้ำมูลให้เร็วที่สุด ซึ่งปัจจุบันน้ำในลำตะคองยังอยู่ในลำน้ำและยังไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชน พร้อมกันนี้ได้ยกบานระบายที่เขื่อนพิมายทุกบานให้พ้นน้ำ และติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 34 เครื่อง เร่งระบายน้ำในแม่น้ำมูล

ส่วนที่ จ.ศรีสะเกษ ได้แขวนบานระบาย ที่เขื่อนราษีไศล เขื่อนหัวนา จ.ศรีสะเกษ เร่งระบายน้ำในแม่น้ำมูลซึ่งปริมาณน้ำนี้จะไหลลงสู่ปลายทางที่ จ.อุบลราชธานี ที่ได้มีการแขวนบานระบายที่เขื่อนลำโดมใหญ่เขื่อนปากมูล เช่นกัน พร้อมติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 140 เครื่อง บริเวณสะพานพิบูลมังสาหารอ.พิบูลมังสาหาร เพื่อเร่งผลักดันน้ำในแม่น้ำมูลลงสู่แม่น้ำโขง ช่วยบรรเทาความเดือนร้อนแก่พี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยอยู่ในขณะนี้ รวมทั้งเตรียมรองรับปริมาณน้ำหลากที่อาจจะเกิดจากฝนตกหนักลงมาอีกในระยะต่อไป