นายกฯ เตรียมลงนครศรีฯ 20 ก.พ.นี้ ตรวจติดตามวาระเมืองสิชลยุติภัยพิบัติซ้ำซาก เพิ่มพูนศักยภาพการจัดการน้ำ

โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ เตรียมลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช 20 ก.พ.นี้ ตรวจติดตามแนวทางการพัฒนา อ.จุฬาภรณ์ พร้อมตรวจติดตามวาระเมืองสิชลยุติภัยพิบัติซ้ำซาก เพิ่มพูนศักยภาพการจัดการน้ำ

วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เตรียมลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ในวันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 เพื่อตรวจติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล และข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ประเด็นการแก้ไขปัญหาพื้นที่ประสบอุทกภัยซ้ำซากและการบริหารจัดการในน้ำในพื้นที่ โดยมีกำหนดการ ดังนี้

IMG 65070 20230217081645000000
อนุชา บูรพชัยศรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ช่วงเช้า เวลาประมาณ  07.30 น. นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ เดินทางออกจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพมหานคร ไปยังท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ต.ปากพูน อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช โดยเครื่องบินของกองทัพอากาศ

capture 20230217 152232
แผนที่ที่ตั้ง อ.สิชล จ.นครศรีฯ

จากนั้นนายกรัฐมนตรีเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ ไปยัง อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อตรวจติดตามแนวทางการพัฒนา อ.จุฬาภรณ์ และพบปะประชาชนในพื้นที่ อ.จุฬาภรณ์และพื้นที่ใกล้เคียง ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอจุฬาภรณ์ ศูนย์ราชการอำเภอจุฬาภรณ์ เสร็จแล้ว นายกรัฐมนตรีเดินทางไปตรวจติดตามการพัฒนาความมั่นคงด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต ณ โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช อ.เมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งได้รับงบประมาณในการดำเนินโครงการเพิ่มศักยภาพการบริหารทางการแพทย์สู่ความเป็นเลิศในภาคใต้ตอนบน มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดูแลสุขภาพของประชาชนอย่างครบวงจร 

ช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีสักการะหลวงพ่อวัดยางใหญ่ และนมัสการพระครูวินัยธร ณัฏฐาสันต์ สิทธิญาโณ เจ้าอาวาสวัดยางใหญ่ ณ วิหารหลวงพ่อวัดยางใหญ่ อ.ท่าศาลา และไหว้บูชาตาพรานบุญ ณ วิหารปฐมบรมครูตาพรานบุญ จากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินทางไปวัดเจดีย์ อ.สิชล กราบสักการะพระประธาน และนมัสการพระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์ เจ้าอาวาสวัดเจดีย์ รวมทั้งไหว้บูชาตาไข่ เพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้น นายกรัฐมนตรีตรวจติดตาม “วาระเมืองสิชลยุติภัยพิบัติซ้ำซาก เพิ่มพูนศักยภาพการจัดการน้ำ” และทักทายประชาชน ณ วัดเจดีย์ 

ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีไปจุดพื้นที่คลองเปลี่ยน ตรวจติดตามการแก้ไขปัญหาพื้นที่ประสบอุทกภัยซ้ำซากบริเวณคลองเปลี่ยนพื้นที่รอยต่อ ต.เปลี่ยน และ ต.เทพราช อ.สิชล โดย อ.สิชลและพื้นที่ใกล้เคียงเป็นพื้นที่ที่มีปัญหาในด้านการบริหารจัดการน้ำ ในฤดูฝนและฤดูน้ำหลาก มักเกิดภาวะน้ำท่วมขังและอุทกภัยซ้ำซาก ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินประชาชนเป็นวงกว้าง รวมทั้งพบปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค และเพื่อการเกษตรในช่วงฤดูแล้ง มีแนวโน้มรุนแรงยิ่งขึ้นจากการบุกรุกทำลายพื้นที่ป่าต้นน้ำ การใช้ประโยชน์จากที่ดินที่ไม่เหมาะสม ส่งผลให้เกิดวามเสื่อมโทรมของระบบนิเวศ จึงมีความจำเป็นต้องกำหนดแนวทางในการลดความรุนแรงและบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งการแก้ไขปัญหาพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การสนับสนุนด้านงบประมาณ พร้อมความต้องการขอรับความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ ทั้งในระยะสั้น และระยะยาว

โดยในเบื้องต้นองค์การบริหารส่วนตำบลเปลี่ยน อ.สิชล ได้เสนอโครงการก่อสร้างทางน้ำล้นสายเขาทราย-อ่าววาโย หมู่ที่ 7 ต.เปลี่ยน เพื่อแก้ไขปัญหาพื้นที่อุทกภัยซ้ำซาก บริเวณคลองเปลี่ยน พื้นที่รอยต่อ ต.เปลี่ยน และ ต.เทพราช โดยได้เสนอผ่านกรมทรัพยากรน้ำ จังหวัดนครศรีธรรมราช และองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีและคณะ จะเดินทางกลับถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ในเวลาประมาณ 18.15 น. โดยกำหนดการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม