กรมส่งเสริมสหกรณ์ วางมาตรการรับมือผลผลิตผลไม้ปี 2568 พร้อมสนับสนุนรวบรวมและกระจายผลผลิตผ่านสหกรณ์ เพิ่มช่องทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน

S 93765709

นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตามที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้วาง 3 มาตรการบริหารจัดการผลไม้ของสถาบันเกษตรกรในปี 2568 เพื่อเตรียมรับมือกับปริมาณผลผลิตที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น เพื่อส่งเสริมให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรมีการจัดการผลผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่ 1. มาตรการด้านการผลิตและรวบรวม กรมฯ ได้ดำเนินโครงการยกระดับคุณภาพมาตรฐานสินค้าเกษตร โดยการส่งเสริมความรู้และมาตรฐานเกษตรปลอดภัยแก่สมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร พร้อมทั้งโครงการสร้างความเชื่อมั่นในสินค้าเกษตรและอาหาร โดยมุ่งเน้นการตรวจสอบย้อนกลับสินค้าเกษตรปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีโครงการส่งเสริมสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่นที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตรท้องถิ่นและการสนับสนุนอุปกรณ์การตลาด เพื่อให้สหกรณ์เป็นศูนย์กลางในการรวบรวมและกระจายผลผลิต 2. มาตรการด้านการเงิน กรมฯ สนับสนุนเงินทุนดอกเบี้ยต่ำจากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ (กพส.) โดยตั้งเป้าหมายให้สหกรณ์ใน 20 จังหวัดทั่วประเทศ จำนวน 37 สหกรณ์ ได้รับวงเงินรวม 87 ล้านบาท เพื่อดำเนินธุรกิจรวบรวมและจำหน่ายผลไม้ 3.มาตรการด้านการตลาดส่งเสริมการกระจายผลผลิตคุณภาพผ่านขบวนการสหกรณ์ โดยสนับสนุนการค้าผลไม้ทั้งในตลาด Offline และ Online รวมถึงโครงการสนับสนุนการกระจายผลไม้เพื่อยกระดับราคาผลไม้ โดยให้การสนับสนุนเงินอุดหนุนมูลค่า 4,730,000 บาท เพื่อจัดซื้อบรรจุภัณฑ์ตะกร้าผลไม้ในการรวบรวมและกระจายผลผลิต นอกจากนี้ ยังได้จัดงานส่งเสริมการบริโภคผลไม้ใน 4 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคตะวันออก จังหวัดตราด (2–3 มิถุนายน 2568) ภาคเหนือ จังหวัดอุตรดิตถ์ (13–22 มิถุนายน 2568) ภาคกลาง ลานคนเมืองกรุงเทพฯ (17–21 กรกฎาคม 2568) และภาคใต้ จังหวัดนครศรีธรรมราช (กรกฎาคม-สิงหาคม 2568)

S 93765720

นายวิศิษฐ์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรทั่วประเทศได้รวบรวมและจำหน่ายผลไม้รวม 12,788.02 ตัน มูลค่า 462.83 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 9 กรกฎาคม 2568) โดยผลไม้ที่มีการรวบรวม ได้แก่ ทุเรียน มังคุด ลำไย เงาะ ลองกอง มะม่วง สับปะรด ส้มโอ มะพร้าว แตงโม และอื่นๆ ซึ่งช่องทางการตลาดรวมถึงการค้าภายในประเทศและการส่งออกผ่านเครือข่ายสหกรณ์และตลาดออนไลน์ โดยภาคตะวันออก มีการจัดคาราวานผลไม้ “KICK OFF การกระจายผลไม้คุณภาพภาคตะวันออกสู่เครือข่ายพันธมิตร” ณ จังหวัดตราด ซึ่งได้มีการส่งผลไม้จากสหกรณ์ในจังหวัดตราด จันทบุรี และระยอง ไปยังเครือข่ายสหกรณ์ทั่วประเทศ จนถึงปัจจุบันได้กระจายผลผลิตมากกว่า 50 ตัน ขณะที่ภาคใต้ สถาบันเกษตรกรในจังหวัดนครศรีธรรมราช ระนอง และชุมพร กระจายผลผลิตมังคุดจำนวนกว่า 150 ตัน

S 93765723

ส่วนภาคเหนือ คาดว่าในฤดูกาลผลิตปี 2568 ผลผลิตลำไยจะเพิ่มขึ้น โดยกรมฯ มีแผนกระจายผลผลิตจากจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน น่าน พะเยา และเชียงราย รวมทั้งสิ้น 11,237.50 ตัน โดยแบ่งเป็นการรวบรวมผ่านกลไกตลาดปกติ 9,823.50 ตัน และผ่านสหกรณ์ 1,414 ตัน การกระจายจะใช้เครือข่ายของสถาบันเกษตรกรในการนำผลผลิตสู่ตลาดปลายทางและผู้บริโภคใน 73 จังหวัด รวมถึงกรุงเทพฯ

S 93765727

“มาตรการทั้ง 3 ด้านข้างต้น จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ยกระดับคุณภาพผลผลิตตามมาตรฐาน GAP สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตร อีกทั้งส่งเสริมการเชื่อมโยงสินค้าเกษตร โดยมีสหกรณ์เป็นกลไกในการขับเคลื่อนส่งเสริมสหกรณ์ให้มีบทบาทในการจัดการผลผลิตและการตลาดแก่สมาชิก รวมถึงส่งเสริมให้สถาบันเกษตรกรเป็นแหล่งรวบรวมผลผลิตของเกษตรกร เพื่อให้สินค้าเกษตรมีตลาดรองรับที่แน่นอนในราคาที่เป็นธรรม นอกจากนี้ การรณรงค์ให้ประชาชนคนไทยหันมาบริโภคผลไม้คุณภาพภาคตะวันออก เพื่อช่วยกระจายสินค้าเกษตรสู่ตลาดภายในประเทศ จึงเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจฐานรากให้กับสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรอย่างมั่นคง” อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าว

S 93765730
S 93765736
S 93765738
S 93765741
S 93765746
S 93765752
S 93765759
S 93765762
S 93765766
S 93765769
S 93765775
S 93765777
S 93765781
S 93765786