ประเทศจีน เป็นประเทศที่ผลักดัน การใช้เครื่องจักรกลการเกษตร อย่างจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา โดยใช้ “สหกรณ์เครื่องจักรกลการเกษตร” เป็นกลไกหลัก ในการรวมทรัพยากร เพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุนของเกษตรกรรายย่อย

สำหรับ “Zanguo Agricultural Machinery Cooperative” ก่อตั้ง ในเดือน พฤษภาคม 2011 ที่เมือง Xigucheng เขต Renze ทุนจดทะเบียน 1.2 ล้านหยวน สมาชิกเริ่มต้น 11 ครัวเรือน ปัจจุบันสมาชิก 152 ครัวเรือน พื้นที่บริการ 80,000 เอเคอร์/ปี และ บริการข้ามเขต 20,000 เอเคอร์/ปี ข้ามเขต โดยมีรถแทรกเตอร์กว่า 100 คัน รถเก็บเกี่ยวข้าวสาลี 50 คัน รถเก็บเกี่ยวข้าวโพด 40 คัน และเครื่องมือที่เป็นอุปกรณ์พ่วงกว่า 200 ชุด

บทบาทหลักของสหกรณ์ ก็คือ ให้บริการปฏิบัติการด้านเครื่องจักรกลการเกษตร คอยแนะนำเทคโนโลยีใหม่ๆ และจัดหาเครื่องจักรกลการเกษตรใหม่ๆ ไว้ให้สมาชิกใช้งาน นอกจากนี้ ยังบริหารจัดการที่ดินแทนสมาชิก ให้คำปรึกษา และคำแนะนำในการเพาะปลูก

การสนับสนุนจากภาครัฐ เช่นเดียวกับสหกรณ์ทั่วประเทศ Zanguo ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานท้องถิ่น และรัฐบาลกลาง ทั้งเงินอุดหนุนเครื่องจักร และการยกระดับให้เป็น “สหกรณ์ต้นแบบ” ซึ่งเป็นนโยบายที่จีนใช้เพื่อขยายผลการพัฒนาสหกรณ์

การรวมกลุ่มของสมาชิก จะสังเกตได้ว่า สมาชิกเริ่มแรกเพียง 11 ราย เพิ่มเป็น 152 ราย สะท้อนภาพแนวโน้มของประเทศจีนที่เกษตรกรรายย่อยเลือกเข้าร่วมสหกรณ์ เพื่อให้มีความสามารถในการเข้าถึงเครื่องจักรกลขนาดใหญ่ที่ตนเองไม่สามารถซื้อได้

การบริการครบวงจร Zanguo ไม่เพียงแต่ให้เช่าเครื่องจักรกลการเกษตร แต่ยังครอบคลุมตั้งแต่การจัดการที่ดิน การปลูก การเก็บเกี่ยว ไปจนถึง บริการข้อมูลทางการเกษตร ตรงกับแนวทางที่รัฐบาลจีนผลักดันให้ สหกรณ์เปลี่ยนจาก “การให้บริการเฉพาะจุด” ไปสู่ “การบริการทั้งห่วงโซ่การผลิต”

ผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจและสังคม การรวมกลุ่มของสหกรณ์ ช่วยลดต้นทุนด้านแรงงาน เพิ่มผลผลิต และสามารถสร้างคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้ ที่สำคัญสามารถกระจายเทคโนโลยีเครื่องจักรกลการเกษตรให้เข้าถึงเกษตรกรรายย่อย เสริมสร้างความร่วมมือในขุมชน

แม้ Zanguo และสหกรณ์อื่นๆ ของจีน จะประสบความสำเร็จ แต่ก็ยังมีความท้าทายที่ต้องเผชิญ อาทิ ความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงเครื่องจักรกลการเกษตรในพื้นที่ห่างไกล ต้นทุนการซ่อมบำรุงรักษา และการบริหารจัดการสูง






