รมว.ธรรมนัส นำ 2 รมช.ลุย อุบลฯ ตรวจน้ำท่วม สั่ง กรมชลฯเร่งระบายน้ำ มั่นใจ 15 วันลดลง ดันสร้าง“อุโมงค์ผันน้ำอ้อมแก่งสะพือ”เข้างบปี 70

S 14458980

เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2568 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ และนายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ รัฐมนตรีช่วย​ว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ,นายสุริยพล นุชอนงค์ อธิบดีกรมชลประทาน และนายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจราชการที่ สถานีวัดระดับน้ำ (M7) บริเวณเชิงสะพานเสรีประชาธิปไตย อ.เมือง จ.อุบลราชธานี เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์น้ำ และการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่

S 14458984

โดย ร.อ.ธรรมนัส กล่าวช่วงหนึ่งว่า ท่านนายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ตน ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ปลายน้ำ ก่อนที่น้ำจากแม่น้ำมูลและแม่น้ำชีจะไหลลงสู่แม่น้ำโขง เพื่อดูสภาพจริงและสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนโดยเร็ว และนายกฯได้ลงนามแต่งตั้งให้ตนเป็นประธานคณะกรรมการชุดพิเศษในการแก้ไขปัญหาเหตุจากภัยธรรมชาติ ไม่ว่าจะอุทกภัย วาตภัย หรือเหตุแผ่นดินไหว ซึ่งจะทำให้สามารถขับเคลื่อนและดูแลเฝ้าติดตามช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้

S 14458988

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวต่อว่า ตนได้สั่งการให้กรมชลประทานเร่งดำเนินมาตรการระบายน้ำออกจากพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี โดยเฉพาะในเขตอำเภอวารินชำราบ ผ่านการบริหารจัดการประตูน้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำโขงให้ได้รวดเร็วขึ้น โดยภายใน 15 วัน ระดับน้ำในเขตอำเภอเมืองและอำเภอวารินชำราบจะลดลงอย่างต่อเนื่อง สำหรับแผนระยะยาว ร.อ.ธรรมนัส เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้กรมชลประทานประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการขุดเจาะอุโมงค์ผันน้ำอ้อมแก่งสะพือ ซึ่งเป็นแนวคิดที่เคยมีการพูดถึงมาหลายรัฐบาล แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้จริง แต่เราเคยสร้างแต่เราเคยสร้างอุโมงค์ผันน้ำที่ จ.เชียงใหม่ได้สำเร็จที่มีความลึกและซับซ้อนกว่านี้มาก แต่สามารถช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมได้จริง ดังนั้น ผมมั่นใจว่าโครงการลักษณะเดียวกันนี้สามารถทำได้ที่อุบลฯ เช่นกัน และหากผลการศึกษาความเป็นไปได้ ตนจะผลักดันให้บรรจุไว้ใน แผนงบประมาณปี 2570 ซึ่งจะเริ่มจัดทำภายในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อเดินหน้าโครงการในเชิงรูปธรรมโดยเร็วที่สุด

S 14458994

“เมื่อวานนี้ ผมได้ร่วมประชุมคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ (คอภ.)กับท่านนายกฯและมีข่าวดีให้กับพี่น้องประชาชนในเรื่องของแนวทางการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย โดยบ้านพักที่อยู่อาศัยของใครถูกน้ำท่วมขัง ติดต่อกันเกินกว่า 7 วัน รัฐบาลก็จะให้ความช่วยเหลือครัวเรือนละ 9,000 บาท ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอเร่งสำรวจความเสียหายและรวบรวมส่งอย่างเร็วที่สุด เพื่อที่ประชาชนจะได้รับเงินไม่ล่าช้า“ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

S 14459002

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวทิ้งท้ายว่า ในช่วงนี้ได้เดินทางตรวจราชการหลายพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วม ทั้งในลุ่มเจ้าพระยา เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี สุโขทัย และล่าสุดที่อุบลราชธานี โดยตนจะแยกดำเนินการต่อเป็น 2 กรณี คือ พื้นที่ท่วมซ้ำซาก แบบบางระกำโมเดล หรือแนวทางการบริหารจัดการน้ำแบบองค์รวมมาใช้ เช่นเดียวกับกรณี กงไกรลาศโมเดล ที่จังหวัดสุโขทัย ซึ่งมีการบริหารพื้นที่ร่วมระหว่างภาครัฐและประชาชนเพื่อป้องกันน้ำท่วมระยะยาว และพื้นที่ประสบภัยเฉพาะหน้า ที่ต้องเร่งระบายน้ำ เยียวยา และฟื้นฟูทันที

S 14459011

“รัฐบาลจะดำเนินการทั้งการ แก้ไข ฟื้นฟู และเยียวยา ไปพร้อมกัน โดยนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องบูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้ทันท่วงที ผมในฐานะผู้กำกับดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานลงพื้นที่ดูแลเกษตรกรอย่างใกล้ชิด เยียวยาโดยเร็ว อย่าปล่อยให้ล่าช้า เพราะพี่น้องเกษตรกรคือหัวใจของประเทศ ขอให้กำลังใจพี่น้องประชาชนและเกษตรกรทุกคน”รองนายกรัฐมนตรี กล่าวทิ้งท้าย

S 14459014
S 14459020
S 14459024
S 14459038