แสงแดดอ่อน ๆ ของยามเช้าในอำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร ส่องสะท้อนกับใบข่าสีเขียวสดที่ไหวเอนอยู่กลางสายลม
ชายคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ
เขาคือ นายอเนก จุลพันธ์ เกษตรกรวัย 53 ปี เกษตรกรผู้พลิกชีวิตจากดินธรรมดา ให้กลายเป็นแปลงข่าตาแดงที่สร้างรายได้มั่นคงกว่า หนึ่งแสนหกหมื่นบาทต่อไร่ต่อปี
จากเกษตรทั่วไป…สู่เกษตรคุณภาพ
อเนกเริ่มปลูกข่าตาแดงตั้งแต่ปี 2542
จากพื้นที่เพียงไม่กี่ไร่ กลายเป็นแปลงผลิตขนาด 3 ไร่
ครอบครัวของอเนก เป็นครอบครัวแรกที่ริเริ่มปลูกข่าตาแดงในชุมชน โดยเริ่มปลูกเพียง 5-10 กอ แซมไปกับไม้ผล และผัก ช่วงแรกนำข่าตาแดงไปขายเอง ในตลาดสดทุกเช้า จนได้รับการตอบรับจากผู้ซื้อ
และได้ขยายพื้นที่ปลูก จนเป็นรายได้หลักของครัวเรือน
“ผมไม่ได้อยากปลูกให้มาก…แต่อยากปลูกให้ดี”
เขาพูดด้วยรอยยิ้มเรียบง่ายแต่หนักแน่น
ความใส่ใจเช่นนั้นทำให้ข่าแดงของเขามีคุณภาพสูง
ได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP จากกรมวิชาการเกษตร และกลายเป็นต้นแบบของ “เกษตรกรข่าแดงคุณภาพ” ในจังหวัดพิจิตร
ข่าตาแดง — พืชสมุนไพรที่ให้มากกว่ารายได้
แปลงข่าตาแดงของอเนกให้ผลผลิตเฉลี่ย 6,600 กิโลกรัมต่อไร่ ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 35 บาทต่อกิโลกรัม
หลังหักต้นทุนแล้ว เขามีรายได้สุทธิเฉลี่ย 169,700 บาทต่อไร่ต่อปี
แต่สิ่งที่มีค่ามากกว่านั้นคือ “ความภูมิใจ”
ที่ได้เห็นพืชสมุนไพรไทยกลายเป็นสินค้าที่ตลาดต้องการอย่างต่อเนื่อง
ถ่ายทอดความรู้ สู่คนรุ่นใหม่
อเนกไม่ได้หยุดแค่การทำสวนของตัวเอง
แต่ยังเปิดพื้นที่ให้เป็น “แปลงเรียนรู้ข่าตาแดงคุณภาพ”
ให้เกษตรกรในชุมชนและเยาวชนเข้ามาเรียนรู้
ตั้งแต่การปลูก การขยายพันธุ์ ไปจนถึงการดูแลให้ได้มาตรฐาน
“ความรู้…ยิ่งแบ่งปัน ยิ่งงอกงาม เหมือนรากข่าที่แตกแขนงออกไปไม่รู้จบ” … นายอเนก จุลพันธ์
บทส่งท้ายจากเล็ก
ข่าตาแดงไม่ใช่แค่สมุนไพรในครัว แต่คือ “พืชแห่งศักดิ์ศรี” ที่ทำให้คนทำเกษตรภูมิใจในอาชีพของตัวเองและยืนหยัดได้ด้วยแรงของความรู้และความซื่อสัตย์
ข้อมูลติดต่อเกษตรกรต้นแบบ
นายอเนก จุลพันธ์
บ้านนางน้อย ตำบลนางน้อย อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร
โทร. 092-194-2894





