รัฐให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการน้ำแค่ไหน ดูได้จากการแต่งตั้ง “เลขาธิการ สทนช.” หรือเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ วันนี้ยังโบ๋เบ๋ ไม่นับรวมข่าวลือ ดึงคนที่ไม่มีประสบการณ์ตรงกับการบริหารจัดการน้ำมานั่งตำแหน่ง “บิ๊กสทนช.” ที่ดูและการจัดการน้ำทั้งประเทศ
ว่ากันตามตรง ข่าวลือที่ว่านี้ ไม่ได้มีแค่ “ขุนพิเรนทร์” กับ “อีเสี้ยมขยี้เกษตร” จาก ช่อง 8 ที่ห่วงใยเรื่องนี้ แต่คนระดับที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อย่าง ผศ.ดร.สิตางศุ์ พิลัยหล้า อาจารย์จากภาควิชาวิศวกรรมทรัพยากรน้ำ คณะวิศวะกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ยังวิพากษ์ตรงๆผ่าน Thai TBS ว่า กังวลถ้าให้คนที่จบ “บัญชี” มาคุมงบและนโยบายการจัดการน้ำ (17 ตุลาคม 2568)
“อาจารย์สิตางศุ์” ของ “ขุนพิเรนทร์” ชี้ชัดๆ ว่ากันตรงๆคือ อยากได้คนที่รู้เรื่องน้ำมาบริหารจัดน้ำของประเทศไทย มุมมองแบบนี้รัฐบาลต้องรับฟัง
ถอดรหัสอาจารย์สิตางศุ์ “เก้าอี้เลขาฯ สทนช. กับอนาคตที่ชื่อ ‘หายนะ’… นี่คือการเดิมพันที่แพ้ไม่ได้ ที่สำคัญ เก้าอี้เลขาธิการ สทนช.ไม่ใช่ที่สำหรับนักบัญชี“
นี่ไม่ใช่การแต่งตั้งข้าราชการระดับ 11 ธรรมดา! แต่คือการส่งสัญญาณว่า “การเมือง” กำลังจะกลืนกิน “ความมั่นคง” ของชาติ!
เสียงของ “อาจารย์สิตางศุ์” ที่ “ขุนพิเรนทร์” ได้ยิน ไม่ใช่แค่เสียงบ่นของนักวิชาการ แต่คือ “เสียงไซเรน” ที่กำลังเตือนว่าเรือกู้ภัยลำนี้กำลังจะถูกยึดโดยคนขับเรือไม่เป็น!
จับประเด็นให้ชัดๆ เก้าอี้เลขาฯ สทนช.. ไม่ใช่เก้าอี้ดนตรีที่ใครจะมานั่งก็ได้! นี่คือตำแหน่ง “แม่ทัพน้ำ” ของประเทศ คนที่จะมานั่งต้อง “อ่านน้ำ” ขาด “คุมน้ำ” อยู่ และ “เจรจา” ในเวทีโลกเป็น

โขงกำลังเดือด จีนกักน้ำ, ลาวสร้างเขื่อน, น้ำปนเปื้อนจากเพื่อนบ้าน ใครจะไปสู้ในเวที MRC ถ้าไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ?
อีสานกำลังจม-แล้ง ปัญหาน้ำท่วมสลับภัยแล้งซ้ำซาก ใครจะวางแผนรับมือถ้ามัวแต่นั่ง “บวกลบเลข”?
กรุงเทพฯ กำลังจะหายไป ปัญหาน้ำทะเลหนุน เมืองหลวงจมน้ำ ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น นี่คือความอยู่รอด
การที่นักวิชาการกล้าออกมาพูดว่า “เราโอเคเหรอ?” คือการตบหน้าผู้มีอำนาจกลางสี่แยก ว่าคุณกำลังเอาคนที่ “เก่งบัญชี” มา “คุมงานวิศวกรรม” ที่ซับซ้อนที่สุดของประเทศ มันใช้ทดแทนกันได้ที่ไหน?
เธอก็พูดชัดแล้วนะ “จะสีอะไรก็ได้ แต่ขอให้เก่งจริง” นี่คือการประนีประนอมที่สุดแล้ว แต่ดูเหมือนสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นคือการ “จัดสรรเก้าอี้” มากกว่า “จัดหาคนทำงาน”
ที่น่ากลัวที่สุดคือคำว่า “ภาระ 4 ปี” หรือ “8 ปี”
นี่ไม่ใช่แค่การเมืองที่จะจบใน 4 ปีแล้วเลือกตั้งใหม่ แต่คือการฝัง “ระเบิดเวลา” ไว้กับระบบบริหารจัดการน้ำของประเทศ ถ้าคนที่มา “ไม่รู้เรื่อง” แล้วนั่งทับปัญหาไว้ 4 ปี ประเทศชาติจะเสียหายเท่าไหร่?
คำว่า “หายนะ” ที่หลุดออกมาตอนท้าย ไม่ใช่การพูดเกินจริง แต่มันคืออนาคตที่เรากำลังเดินเข้าไปหา ถ้ายังปล่อยให้การเมืองนำหน้าวิชาการในเรื่องคอขาดบาดตายแบบนี้!
เรื่องนี้ต้องจับตาดูแบบห้ามกะพริบ
เรื่องอื่น “ขุนพิเรนทร์”ไม่รู้แต่เรื่องที่ “อาจารย์สิตางศุ์” ออกมาพูด อยากบอกดังๆว่า “ภาวนา” ไม่ให้ข่าวลือเป็นจริง!!





